Skip to main content

Soluções naturais com tecnologia embarcada alavancam produção de grãos e hortifruti

Submitted by mespinosa on Thu, 05/23/2024 - 15:20

Uso de soluções naturais para melhoria da saúde do solo, equilíbrio fisiológico e nutrição de plantas mitiga estresses e impacta positivamente na produtividade dos cultivos do Cerrado

Estudos científicos e trabalhos de campo comprovam que o uso de soluções biotecnológicas auxilia os produtores de grãos e hortifruti (HF) do Centro-Oeste a enfrentarem as adversidades e incrementarem seus ganhos produtivos e, consequentemente, financeiros. “Os maiores desafios da região estão relacionados à falta de chuvas e às altas temperaturas, como ocorreu na última safra. Essas condições climáticas desfavoráveis geram estresses que atrapalham o desenvolvimento das plantas”, aponta o doutorando em Fitotecnia pela Universidade Federal de Uberlândia Matheus Henrique Pereira Medeiros, gerente técnico da Alltech Crop Science.

Atualmente, o pesquisador realiza trabalhos na Agrícola Werhmann, localizada no município de Cristalina (GO), com o objetivo de mitigação de distúrbios fisiológicos após aplicação de herbicida na cultura da cebola. Os estudos estão sendo conduzidos através da parceria entre a empresa de produção de hortaliças, a Alltech Crop Science e o Núcleo de Pesquisa em Olericultura (NUPOL) da Universidade Federal de Uberlândia (UFU), de Minas Gerais.

Segundo Medeiros, a diminuição dos impactos causados pelas condições climáticas começa pelo cuidado com a saúde do solo. De acordo com o especialista, um dos manejos que vem apresentando excelentes resultados consiste na manutenção e condicionamento do microbioma do solo. “A aplicação do SOIL-PLEX ACTIVE promove a atividade da microbiota de maneira natural e espontânea, tornando-a mais saudável e vigorosa. Este produto permite que os microrganismos benéficos do solo se desenvolvam para colonizar o solo e as raízes, estimulando o crescimento radicular e melhorando a absorção de nutrientes pela planta. Com isso, o ambiente torna-se propício à supressão de doenças do solo e ao crescimento saudável da planta, refletindo em melhores produtividades”, explica.

Análises realizadas no Laboratório de Microbiologia Agrícola, da FCAV/UNESP, em Jaboticabal (SP), indicam que o SOIL-PLEX ACTIVE é compatível e pode ser utilizado com diversos microrganismos comercializados para uso no controle biológico, o que faz dele uma ferramenta importante para o sucesso da aplicação de bioinsumos, que hoje estão sendo amplamente empregados em diferentes culturas, como soja, milho, feijão, tomate, cenoura, cebola e alho. O estudo científico resultou em aumentos de 16 a 3.324,66% na contagem de microrganismos benéficos do solo.

Produtividade e rentabilidade

Os ganhos decorrentes desse tipo de mistura foram confirmados por ensaio realizado na Estação Experimental da MPB Agro, localizada no município de Jataí (GO), na safra 2023/24. O trabalho de campo concluiu que o uso de SOIL-PLEX ACTIVE e Bacillus sp., via sulco de semeadura, promoveu maior população final de plantas, maior número total de vagens por planta, maior número total de grãos por planta e massa de mil grãos de soja. Como consequência, resultou em maior produtividade: 79,3 sacas por hectare (sc/ha). Já o manejo sem aplicação dos produtos via sulco de semeadura produziu apenas 75,6 sc/ha. Com isso, o manejo do solo incrementou em 3,7 sc/ha de soja.

“Com este investimento para a melhoria da saúde do solo, o produtor gerou um retorno sobre o valor investido de 27%, considerando o preço médio da saca de soja atual e os custos dos produtos. Se analisarmos o manejo da cultura da soja, é rotina o produtor de soja aplicar, no mínimo, os inoculantes para fixação biológica de nitrogênio. O SOIL PLEX ACTIVE deve ser uma ferramenta essencial nos cultivos do Cerrado pois favorece a microbiota benéfica, que já está presente no solo, e a melhor performance dos microrganismos que são inseridos no sistema”, exemplifica Medeiros.

Agrobrasília

Produtores do Centro-Oeste e região,  interessados em mais informações sobre o SOIL PLEX ACTIVE e o portfólio completo da Alltech Crop Science podem visitar o estande I-08 na 15ª edição da AgroBrasília, que acontece no Parque Tecnológico Ivaldo Cenci de 21 a 25 de maio. O espaço no evento é compartilhado com a Nutrimax, agora Vertiza, parceira da Alltech Crop Science há mais de 20 anos. “É o momento oportuno de comprar os insumos para a próxima safra, com condições especiais de negociação”, destaca Medeiros. Os participantes da maior feira de agronegócio do Planalto Central também poderão conhecer a área demonstrativa da Alltech Crop Science, onde será possível visualizar na prática os efeitos da aplicação das soluções biotecnológicas e a construção de um solo saudável, com maior crescimento de raízes, manejo de nematoides e plantas mais produtivas.

<>Premium Content
Off
<>Featured Image
<>Date
<>Featured Image License
Off
<>Feature
Off
<>Primary Focus Area
<>Article Type

Meta-Analysis เผยการวิเคราะห์สารพิษจากเชื้อราที่ส่งผลต่อสุกร

Submitted by kpoolsap on Thu, 05/23/2024 - 14:54

สารพิษจากเชื้อราในอาหารสัตว์เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพและผลผลิตของสัตว์ สารประกอบเหล่านี้แม้ว่าจะมองไม่เห็น แต่ก็สามารถสร้างความหายนะให้กับระบบอวัยวะต่าง ๆ ลดการทํางานของตับและไต ความสมบูรณ์พันธุ์ การตอบสนองของภูมิคุ้มกัน การบริโภคอาหาร และอัตราการเจริญเติบโตของสุกร

 

บทความล่าสุดที่เขียนโดย Dr. Alexandra Weaver, Dr. Daniel Weaver, Nick Adams และ Dr. Alexandros Yiannikouris ใช้เทคนิค meta-analysis กับ meta-regression เพื่อตรวจสอบผลกระทบที่เป็นอันตรายของปัญหาสารพิษจากเชื้อราในสุกรรุ่น การวิเคราะห์อภิมานนี้ (meta-analysis) ได้วิเคราะห์การใช้สารสกัดจากผนังเซลล์ยีสต์ (YCWE) เช่นที่พบใน Mycosorb® ของ Alltech อย่างใกล้ชิด เพื่อลดปัญหาเหล่านี้

 

Meta-analysis และ Meta-regression คืออะไร?

meta-analysis เป็นเทคนิคทางสถิติที่ใช้ในการวิจัย โดยจะรวบรวมและวิเคราะห์ผลลัพธ์จากการศึกษาอิสระหลายเรื่องในหัวข้อเฉพาะ ซึ่งจะให้ภาพรวมที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้มากขึ้นของหลักฐาน กระบวนการนี้เกี่ยวข้องกับการทบทวนวรรณกรรม (literature reviews) การใช้เกณฑ์การคัดเข้าและการคัดออก (inclusion and exclusion criteria) การสกัดข้อมูล (data extraction) การวิเคราะห์ทางสถิติ และการแปลผล meta-analysis มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อการศึกษาแต่ละรายการอาจมีข้อจํากัด หรือเมื่อจําเป็นต้องมีความเข้าใจที่แม่นยำยิ่งขึ้น

Meta-regression เป็นกระบวนการที่มักใช้ใน meta-analysis เพื่อสํารวจและหาค่าของความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของการศึกษา (study characteristics) และผลกระทบที่สังเกตได้จากชุดการศึกษา สิ่งนี้จะสามารถช่วยระบุแหล่งที่มาของความแปรผันและประเมินว่ามีปัจจัยใดที่อาจส่งผลต่อผลการทดลองโดยรวมที่สังเกตได้หรือไม่

 

ผลกระทบของสารพิษจากเชื้อราต่อสุกร

สุกรเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่อ่อนไหวที่สุดเมื่อพูดถึงผลกระทบของสารพิษจากเชื้อราต่อ สุขภาพ การพัฒนา และผลผลิต ชนิดและความเข้มข้นของสารพิษเหล่านี้ในอาหารสัตว์ ประกอบกับอายุและระยะการผลิตของสุกร เป็นตัวกําหนดระดับผลกระทบที่สัตว์จะได้รับ สุกรอายุน้อยและแม่พันธ์/พ่อพันธุ์มักไวต่อสารพิษมากที่สุด

 

สารพิษจากเชื้อราซึ่งส่งผลต่อสุกรที่พบบ่อย ได้แก่:

 

        Aflatoxins: ผลิตโดยเชื้อรา Aspergillus อะฟลาทอกซินสามารถทําลายตับได้ นอกจากนี้ยังอาจยับยั้งระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มความไวต่อโรค และส่งผลต่ออัตราการเติบโตที่ลดลง และประสิทธิภาพการสืบพันธุ์บกพร่อง อะฟลาทอกซิน B1 (AFB1) เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุกร

 

        Deoxynivalenol (DON): Deoxynivalenol มีผลต่อระบบทางเดินอาหารเป็นหลัก สุกรที่สัมผัสกับ DON อาจพบว่าการบริโภคอาหารลดลง อาเจียน ท้องร่วง และการดูดซึมสารอาหารบกพร่อง การได้รับสารพิษแบบเรื้อรังอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพการเจริญเติบโตไม่ดีนัก

 

        Zearalenone (ZEA): มักถูกมองว่าเป็นสารพิษจากเชื้อราที่สร้างความเสียหายมากที่สุด zearalenone สามารถขัดขวางการทํางานของระบบสืบพันธุ์ในสุกรได้ มันสามารถทําให้เกิดอาการบวมและแดงของช่องคลอด นําไปสู่การติดสัดหลอก (false heats) และท้องหลอก (false pregnancy) เมื่อการตั้งท้องจริงเกิดขึ้น แม่สุกรจะประสบกับภาวะแท้งและมีลูกสุกรตายคลอดมากขึ้น

 

        Ochratoxins: สารพิษเหล่านี้ทำให้การทํางานของไตบกพร่อง การสัมผัสสารพิษนี้แบบเรื้อรัง อาจนําไปสู่ความเสียหายของไตและอัตราการเจริญเติบโตที่ลดลง

 

        Fumonisins (FUM): Fumonisins มีความเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพหลายประการ รวมถึงความเสียหายของตับและไต และยังปรากฏว่าสารพิษนี้จะเพิ่มความรุนแรงของโรคหลายโรค เช่น โรคระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินหายใจของสุกร (PRRS) และยังลดความต้านทานต่อเชื้อก่อโรคต่าง ๆ เช่น อีโคไล

 

        สารพิษ T2-HT2: สารพิษนี้อยู่ในกลุ่ม trichothecene ของสารพิษจากเชื้อราที่ผลิตโดยเชื้อรา Fusarium บางชนิด เป็นที่ทราบกันดีว่า มีผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญต่อสุขภาพของสัตว์เมื่อมีอยู่ในอาหารสัตว์

 

นอกจากนี้ นักวิจัยยังพบสารพิษจากเชื้อราอื่นเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และหลายชนิดอาจเป็นสารปนเปื้อนที่พบในอาหารสัตว์ได้บ่อยครั้ง

 

ผลการศึกษาโดยสังเขป

meta-analysis เผยให้เห็นความสัมพันธ์ที่สําคัญระหว่างการได้รับสารพิษจากเชื้อราและประสิทธิภาพที่ลดลงในสุกรที่กําลังเติบโต แม้ว่าระดับสารพิษจากเชื้อราจะตํ่ากว่าที่ระบุในข้อบังคับของสหภาพยุโรป/สหรัฐอเมริกา แต่อัตราการเจริญเติบโตต่อวัน (ADG) ก็ลดลงถึง 79 กรัม และเป็นที่น่าสังเกตว่า เมื่อสารพิษจากเชื้อราอย่างน้อยหนึ่งชนิดมีปริมาณเกินกว่าระดับที่ระบุไว้ในข้อบังคับ จะมีการสูญเสีย ADG เพิ่มขึ้นเป็น 85 กรัม และการกินอาหารเฉลี่ยต่อวัน (ADFI) ลดลงอย่างมีนัยสําคัญ ที่ 166 กรัม

 

การประเมินสรุปผลลัพธ์จากการทดลองที่แตกต่างกัน 30 การทดลอง แสดงให้เห็นว่าการใช้สารสกัดจากผนังเซลล์ยีสต์ (YCWE) ในช่วงที่มีปัญหาสารพิษจากเชื้อรา สามารถเพิ่ม ADG ได้ สุกรที่ได้รับ YCWE ในช่วงที่มีปัญหาสารพิษจากเชื้อราในปริมาณต่ำกว่าเกณฑ์ในข้อบังคับ มี ADG ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสําคัญ ซึ่งสูงขึ้นได้ถึง 48 กรัม เมื่อเทียบกับสุกรที่ได้รับสารพิษจากเชื้อราเพียงอย่างเดียว และแม้ในกรณีที่มีระดับสารพิษจากเชื้อราที่สูงขึ้น หากสุกรได้รับ YCWE ทั้งอัตรา ADG และแนวโน้มของ ADFI ก็ยังเพิ่มขึ้นเช่นกัน

 

ผลกระทบต่อผู้ผลิตสุกร

การทําความเข้าใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากสารพิษจากเชื้อราต่อประสิทธิภาพของสุกรเป็นสิ่งสําคัญ สําหรับผู้ผลิตสุกร การวิเคราะห์อภิมานนี้ (meta-analysis) แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าสารพิษเหล่านี้จะมีปริมาณตํ่ากว่าในข้อบังคับ แต่ก็ส่งผลให้ประสิทธิภาพการเจริญเติบโตลดลง ซึ่งมีผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญ การวิเคราะห์นี้ได้เสนอข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้เพื่อป้องกันและแม้กระทั่งปรับปรุงสุขภาพและประสิทธิภาพของสัตว์ได้จริง โดยการใช้โซลูชัน เช่น สารสกัดจากผนังเซลล์ยีสต์

 

สรุป

งานวิจัยนี้ไม่เพียงแต่ให้ความกระจ่างเกี่ยวกับอันตรายของปัญหาสารพิษจากเชื้อราต่อสุขภาพของสุกรและการผลิตสุกร แต่ยังเน้นให้เห็นศักยภาพของสารสกัดจากผนังเซลล์ยีสต์ในการช่วยจัดการปัญหาสารพิษจากเชื้อรา สารสกัดจากผนังเซลล์ยีสต์กลายเป็นโซลูชันที่หวังผลได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งหนทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของสุกรและยังช่วยลดผลกระทบจากการได้รับสารพิษจากเชื้อราอีกด้วย

ในขณะที่เรายังคงสํารวจภูมิทัศน์ที่ซับซ้อนของโภชนาการสำหรับสุกร ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะกระตุ้นให้เราพิจารณากลยุทธ์ของเราใหม่ เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้น

 

________________________________________

 

เกี่ยวกับผู้เขียน:

Dr. Alexandra Weaver สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอก สาขาสัตวศาสตร์และโภชนาการจาก North Carolina State University ภายใต้การดูแลของ Dr. Sung Woo Kim วิทยานิพนธ์ของเธอมีชื่อว่า “The impact of mycotoxins on growth and health of swine” ซึ่งศึกษาผลกระทบของสารพิษจากเชื้อราต่อประสิทธิภาพการผลิต ภูมิคุ้มกัน ความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน สุขภาพลําไส้ และความสามารถในการสืบพันธุ์ของสุกร เธอได้ตีพิมพ์หลายบทความวิจัยในวารสารหลายฉบับ รวมถึง the Journal of Animal Science ในปี 2013 Weaver ได้เข้าร่วมทีม Alltech® Mycotoxin Management ซึ่งมีหน้าที่ช่วยสนับสนุนให้ผู้ผลิตและนักโภชนาการทุกสายพันธุ์เข้าใจและจัดการกับสารพิษจากเชื้อรา

<>Premium Content
Off
<>Featured Image
<>Date
<>Featured Image License
Off
<>Feature
On
<>Primary Focus Area
<>Article Type

อาหารสัตว์ของคุณอาจปนเปื้อนโลหะหนักที่เป็นพิษหรือไม่?

Submitted by kpoolsap on Thu, 05/23/2024 - 12:03

ทําความเข้าใจความเสี่ยงการปนเปื้อนในอาหารสัตว์และส่วนผสมอาหารสัตว์

มีความตระหนักมากขึ้นเกี่ยวกับการปรากฏของโลหะหนักในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสัตว์และสุขภาพของมนุษย์

โลหะปริมาณน้อย (Trace metals) เป็นธาตุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติซึ่งใช้ในหลายอุตสาหกรรมและจําเป็นสําหรับการทํางานของร่างกายตามปกติในสัตว์และมนุษย์ ตัวอย่างเช่น สังกะสี เหล็ก และทองแดง เป็นธาตุที่มีความสําคัญในปริมาณเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามพวกมันอาจเป็นพิษได้แม้ในระดับปานกลางและพิษของโลหะหนักจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายดูดซึมโลหะบางชนิดมากเกินไป ซึ่ง ปรอท ตะกั่ว แคดเมียม และสารหนู เป็นโลหะที่พบมากที่สุดในระดับที่เป็นพิษ

ประชากรทั่วไปสามารถสัมผัสกับสารปนเปื้อนโลหะหนักผ่านน้ำดื่ม ฝุ่น และไอระเหย และมาจากหลากหลายแหล่งอาหาร (Atafar et al., 2010) โลหะหนักที่เป็นพิษถูกส่งผ่านไปยังผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่กินได้ เช่น เนื้อสัตว์ นม และไข่ และจะถูกส่งผ่านไปยังห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ หากมนุษย์สัมผัสกับสารประกอบเหล่านี้ในปริมาณสูงอาจเป็นพิษได้ โดยโลหะหลายชนิดเหล่านี้มีคุณสมบัติที่ก่อให้เกิดมะเร็ง

การสะสมของโลหะหนักในแหล่งโปรตีนจากสัตว์อาจเกิดจากการปนเปื้อนในส่วนผสมอาหารสัตว์บางชนิด  (Vremane et al., 1986; Spragg, 2008) โดยโอกาสปนเปื้อนเกิดจาก:

       การสัมผัสกับน้ำใต้ดินและดินที่มีโลหะหนักในระดับสูง ในระหว่างการผลิตพืช (ส่งผ่านไปยังพืช)

       การสะสมสารพิษสูงขึ้น (bioaccumulation) ตามลำดับในห่วงโซ่อาหาร (เช่น ปรอทในสัตว์กินเนื้อ)

       การแปรรูปวัตถุดิบ (เช่น ในการสกัดและรีไซเคิลแร่ธาตุอนินทรีย์)

       การปนเปื้อนข้าม (cross contamination) ระหว่างการแปรรูป หรือการขนส่ง หรือในโรงงานอาหารสัตว์

 

ทําความเข้าใจความเสี่ยงในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์

ทศวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการปนเปื้อนโลหะหนักในอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น นี่เป็นผลมาจากการแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยของอาหารที่น่าเชื่อถือจำนวนหนึ่ง ตัวอย่างเช่น ในปี 2020 และ 2021 พบว่าอาหารสุนัขจํานวนมากจากยุโรปมีแคดเมียมในระดับที่มากเกินไป และแหล่งแร่อนินทรีย์สําหรับอุตสาหกรรมอาหารสัตว์มักถูกรายงานโดยสำนักความปลอดภัยอาหารแห่งยุโรป (European Food Safety Authority: EFSA) ใน Rapid Alert System for Food and Feed Portal (RASFF: ระบบแจ้งเตือนความปลอดภัยอาหารและอาหารสัตว์ของสหภาพยุโรป)

อย่างไรก็ตามในส่วนอื่น ๆ ของโลก ไม่มีระบบตรวจสอบหรือแจ้งเตือนดังกล่าวและความเสี่ยงส่วนใหญ่อาจถูกมองข้ามหรือประเมินตํ่าเกินไป

 

The Alltech 2023 Asia-Pacific Toxic Heavy Metal Survey

ความพยายามในการหาปริมาณความเสี่ยงของโลหะหนักที่เป็นพิษต่ออุตสาหกรรมอาหารสัตว์ได้ถูกดําเนินการโดยออลเทคอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ออลเทคเริ่มการสํารวจขึ้นในปี 2010 และได้เผยแพร่รายงานที่ให้ข้อมูลอย่างครอบคลุมมาแล้วเก้าฉบับจนถึงขณะนี้ ซึ่งได้กลายเป็นเกณฑ์มาตรฐานที่สำคัญสําหรับการประเมินความเสี่ยงของการปนเปื้อนในอาหารสัตว์และแร่ธาตุรอง

จากการสํารวจ เราได้วิเคราะห์ตัวอย่าง 735 ตัวอย่าง ที่รวบรวมจาก 12 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยจํานวนตัวอย่างทั้งหมดที่ถูกนำมาวิเคราะห์มีมากกว่า 7,000 ตัวอย่าง นับตั้งแต่เปิดตัวการสํารวจในปี 2010

อย่างเช่นหลายปีก่อนหน้า การสํารวจได้ประเมินระดับตะกั่ว สารหนู และแคดเมียมโดยใช้เกณฑ์ปริมาณสูงสุดที่ได้รับอนุญาตของสหภาพยุโรป เพื่อระบุความเสี่ยงของการปนเปื้อน การวิเคราะห์ครอบคลุมตัวอย่างอาหารสัตว์ พรีมิกซ์ แร่ธาตุรองอนินทรีย์และแร่ธาตุรองอินทรีย์ ซึ่งครอบคลุมหมวดหมู่ต่าง ๆ เช่น สุกร สัตว์ปีก สัตว์เคี้ยวเอื้อง การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และสัตว์เลี้ยง

หลังการสํารวจเสร็จสิ้น พบว่ามีระดับการปนเปื้อน 14% ในตัวอย่างทั้งหมดจากเอเชียแปซิฟิก จากการวิเคราะห์แสดงให้เห็นการปนเปื้อนอย่างมีนัยสําคัญทั้งในแหล่งแร่ธาตุอินทรีย์และแหล่งแร่ธาตุอนินทรีย์

การสํารวจแสดงให้เห็นชัดว่า พรีมิกซ์สำหรับสัตว์ปีกมีระดับการปนเปื้อนสูงสุดที่ 13% รองลงมาคือการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (9%) และตัวอย่างพรีมิกซ์ของสัตว์เคี้ยวเอื้อง (8%) ในอาหารสุกรแสดงให้เห็นถึงการปนเปื้อนสูงสุดที่ 14% ตามด้วยสัตว์เคี้ยวเอื้อง (9%) และสัตว์ปีก (5%) ตัวอย่างบางตัวอย่างแสดงระดับโลหะหนักที่เกินข้อบังคับของสหภาพยุโรป

ผลการสํารวจโลหะหนักที่เป็นพิษจาก Alltech Asia-Pacific Toxic Heavy Metal Surveys ทั้งหมดตั้งแต่ปี 2010 ได้เผยให้เห็นความเสี่ยงจากการปนเปื้อนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในตัวอย่างที่นำมาตรวจสอบในเอเชียแปซิฟิก โดยมีอัตราเฉลี่ย 19% สิ่งนี้บ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่ร้ายแรงและต่อเนื่องต่อสุขภาพสัตว์และความปลอดภัยของห่วงโซ่อาหารทั้งหมด

 

จัดการความเสี่ยงการปนเปื้อนในอาหารสัตว์ ด้วยผู้ผลิตวัตถุดิบที่น่าเชื่อถือ

เพื่อลดความเสี่ยง บริษัทอาหารสัตว์และผู้ผลิตสัตว์จําเป็นต้องจัดหาแร่ธาตุจากแหล่งที่เชื่อถือได้ โดยอาจต้องทํางานร่วมกับบริษัทที่มีระบบคุณภาพที่เข้มข้น อย่างเช่น โปรแกรม Alltech Q+ ™ ที่เน้นความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ ความเสถียรของคุณภาพ และการตรวจสอบย้อนกลับได้ของวัตถดิบที่มีความเสี่ยงสูง เช่น แหล่งแร่ธาตุ หากเราสามารถลดความเสี่ยงของสารปนเปื้อนโลหะหนักที่เข้าสู่ห่วงโซ่อาหารได้ ก็จะส่งผลต่อเนื่องถึงห่วงโซ่อาหารของมนุษย์

สําหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบบสํารวจ โปรดติดต่อทีมงานออลเทคในพื้นที่ของคุณหรืออีเมลไปที่ knowyourminerals@alltech.com

________________________________________  

เกี่ยวกับผู้เขียน:

Tara Tiller (ธาร่า ทิลเลอร์) เป็น global project manager of corporate accounts and companion animals ที่ออลเทค ซึ่งมีบทบาทในการดูแลการเติบโตของธุรกิจด้านสัตว์เลี้ยงและม้าของบริษัท

Tara ร่วมงานกับออลเทคครั้งแรกในตําแหน่งผู้จัดการฝ่ายประกันคุณภาพของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เธอเป็นผู้นําในการจัดตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย จีน อินเดีย และเวียดนาม และเดินทางไปทั่วเอเชีย ต่อมาได้เข้าร่วมในทีม Mineral Management ของออลเทค ซึ่งเธอให้การสนับสนุนด้านเทคนิคและให้คําปรึกษาเกี่ยวกับโภชนาการของแร่ธาตุรอง ทั้งภายในและภายนอกองค์กรทั่วเอเชียแปซิฟิก โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มผลิตภัณฑ์แร่ธาตุรองอินทรีย์ของออลเทค

ในปี 2018 Tara ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น global project manager ของออลเทค ซึ่งต้องผสานความสามารถด้านเทคนิคที่เธอมีประสบการณ์มาก่อนหน้านี้ เข้ากับการจัดการโครงการและโปรแกรมด้านแร่ธาตุของออลเทคทั่วโลก ในตําแหน่งปัจจุบันของเธอ ซึ่งอยู่ในทีมด้านสัตว์เลี้ยงของบริษัท เธอยังคงพัฒนาและส่งเสริมโซลูชั่นและบริการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการแร่ธาตุ

Tara ได้รับปริญญาด้านสัตวศาสตร์และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจากมหาวิทยาลัยแทสเมเนียในประเทศออสเตรเลีย

 

<>Premium Content
Off
<>Featured Image
<>Date
<>Featured Image License
Off
<>Feature
On
<>Primary Focus Area
<>Article Type

Advancing the pet industry with the Pet Sustainability Coalition

Submitted by amarler on Thu, 05/23/2024 - 08:52

Pet brands that focus on sustainability have grown 7.1 times faster than their conventional counterparts in the last five years. This insight comes from our latest episode of the AgFuture podcast. This week, we are joined by Jim Lamancusa, Executive Director of the Pet Sustainability Coalition; Hannah Tirrell-Wysocki, Accreditation Manager at the PSC; and Kami Grandeen, Alltech’s North American Companion Animal Sales Manager. They discuss the mission and growth of the PSC, Alltech's recent reaccreditation with the PSC, and the platinum, gold, and silver sustainability medals from EcoVadis, an organization that provides business sustainability ratings. They also explore the shifting demand for sustainable pet foods by Millennials and Gen Z. Tune in to learn how these initiatives are transforming the pet industry.

The following blog is a summary of the Ag Future podcast episode with Jim Lamancusa, Hannah Tirrell-Wysocki and Kami Grandeen, hosted by Tom Martin. Click below to hear the full audio or listen to the episode on Apple PodcastsSpotify or wherever you get your podcasts.

Tom:                      For Ag Future, I’m Tom Martin. Today, we’re focusing on sustainability efforts in the pet industry. With me are Jim Lamancusa, executive director of the Pet Sustainability Coalition. Welcome, Jim.

 

Jim:                         Thanks for having me.

 

Tom:                      Hannah Tirrell-Wysocki, Pet Sustainability Coalition accreditation manager. Thanks for joining us, Hannah.

 

Hannah:                  Thanks. Great to be here.

 

Tom:                      And Alltech’s North American companion animal sales manager, Kami Grandeen. Hello, Kami.

 

Kami:                      Hi, Tom. Thanks for having us today.

 

Tom:                      Jim, let’s start with you. A broad question: If you would, just tell us about the Pet Sustainability Coalition. How did it come about, and what’s the mission?

 

Jim:                         Sure. We’ve been around for 11 years, and it was recognized 11 years ago that there are major sustainability challenges to the pet industry that can’t be solved by one individual company. And so, back 11 years ago, we had eight founding members that came together to form the Pet Sustainability Coalition. Now, fast forward 11 years later, we have over 200 members across 17 countries, and we are helping our members to become more sustainable brands and individual companies themselves. We’re also tackling these larger sustainability challenges that the pet industry faces.

 

Tom:                      And how is that working? How are your practices advancing the pet business?

 

Jim:                         There’s a couple what we call legs to the stool. One of them is around ingredients. We help our brands to focus on more sustainable ingredient sources like regenerative agriculture meat and proteins, or alternative proteins like insect proteins, that help reduce their carbon footprint. We also help brands on the packaging side, so moving packaging from virgin plastics to recycled content: recyclable, biodegradable, and paper-based packaging products that, again, reduce the environmental impact. Third is, we help our brands focus on social sustainability initiatives, so employee surveys, supply chain mapping. We help supply chain roadmapping, helping build a green team within your pet food company. Those are just a couple examples about what we do with our members.

 

Tom:                      Okay. Hannah, let’s bring you in. You’re an accreditation manager with the Pet Sustainability Coalition. Alltech’s been re-accredited by the coalition. Why is accreditation by the PSC important to Alltech?

 

Hannah:                  The PSC accreditation is a little bit different from our membership. We have an open membership model, which means that any company, regardless of where they are on their sustainability journey, is welcome to join as members. We think that that’s really important because we need everyone at the table when it comes to making change. But our accreditation is really reserved for companies who are further along on that sustainability journey. Companies like Alltech, who are really leading in the pet industry when it comes to their social and their environmental impact.

 

                               So, companies like Alltech, who are accredited, must measure, verify, and commit to continual improvement.

 

                               Measurement refers to an assessment that these companies take, which is based on the U.N. Sustainable Development Goals. And then verifying refers to a third-party verification that happens where companies submit documentation to substantiate their assessment responses. And then the third part is my favorite part, really, is that companies who are accredited are committed to continually improving on their sustainability. And I think this is so important because sustainability is a moving target, right? Like, as technology advances and as business grows, there’s always room for improvement.

 

                               And again, Alltech has committed to all three of those and are one of our accredited companies.

 

Tom:                      All right, Kami, let’s get your perspective from the Alltech point of view. What is the value of this accreditation to customers like Alltech?

 

Kami:                      Overall, the PSC group is just a great guide on our sustainability journey. I really think for Alltech and our pet business, it does two different things. The verification and the accreditation really ensure that we are on the right path, that we’re doing the right things. It’s pushing us to do even more things. Like both Jim and Hannah said, continuous improvement. We’re not gonna be satisfied with where we are today or where we are tomorrow. We’re gonna keep moving.

 

                               So it firstly helps us and guides us. And I think the second piece of that is, it tells our customers the pet brands that we supply ingredients to. It tells the pet industry as a whole that we are truly committed to sustainability. We are trying to improve. We’re looking for ways that we can be more efficient, more environmentally and socially responsible. So I think it solidifies that commitment to the industry.

 

Tom:                      Let’s talk about that. Tell us about Alltech’s sustainability initiatives that you have underway.

 

Kami:                      Really, a lot of the continuous improvements. We’re dedicated. We’ve signed up for 9 of these 17 U.N. Sustainable Development Goals, which is, I think, a really big wish list there, but continuously making improvements. We are committed to the 10 Principles of the U.N. Global Compact as well. We’ve made some really great strides so far. If you just look at some highlights from our last Sustainability Reports, we’ve had 4.5 million invested in efficiency projects. Through these projects, we’ve taken 7,600 metric tons of CO2 out of the system, through these efficiency projects. And 100% of our production team members are trained on health and safety.

 

                               So, kind of across the board, I think we’ve made some good strides, and we’re gonna continue to get better.

 

Tom:                      Well, Kami, staying with you: Last year, Alltech was recognized with platinum, gold, and silver sustainability medals from EcoVadis, an organization that provides business sustainability ratings. And I understand that this recognition places Alltech among some industry heavy hitters globally. What does it mean to the company, to Alltech, to be recognized in this way?

 

Kami:                      Yeah, we’re extremely proud of this. This, as you can imagine, is an incredible amount of work. This doesn’t just happen because leadership says, We’re gonna get this accreditation, we’re gonna do these things. This happens because our team does a lot of hard work. They innovate. They look for ways to improve. They forge new paths. They look for new answers that maybe weren’t the answers that they were using yesterday and maybe won’t be the answers that they’re using tomorrow. We’re incredibly proud of this. I think we’re always learning new things. I think we can learn something from every accreditation, every verification that we go through. We continuously learn new things that we can do better and learn how to make things more efficient and more environmentally and socially sustainable.

 

Tom:                      Alltech ran a sustainability insights survey among leading agri-food businesses to get a sense of the issues that matter most to the agri-food value chain. What did you learn from that?

 

Kami:                      Yeah, the agri-food insights [survey] was really interesting. I think it was eye-opening to a lot of us because we did interview global leaders. And I think that the interesting part was, as a whole, the agri-food industry is really looking for ways to be more sustainable. And that’s probably going to come through innovation, through collaboration, through communication, to figure out how to solve this problem collectively as an industry.

 

                               But if you break it down by different regions, the top concerns really do vary. I mean, for example, in the EU, emissions were the thing that we found were the biggest priority. If you look at Asia-Pacific and the Middle East, it was sourcing raw materials. Latin America’s focus was more on water and soil health. And then if you look at the U.S., or North America, more on the economic sustainability. How do we keep family farms in business?

 

                               I think if you look collectively, everyone’s focused on these, but the priorities by country were very different, and I think it gives us all a chance to work together and communicate maybe how the EU is working on emissions today will be a priority for the U.S. tomorrow. So I think it was good insights.

 

Tom:                      Well, you mentioned collaboration, and I know the survey indicates a great deal of interest in the industry in partnership and collaboration, but are these competitive interests that we’re talking about? How does that work?

 

Kami:                      Yeah, that’s always a challenge. I think, as businesspeople, we’re naturally going to be competitive. And I think we can put away our competitiveness for this because we all are working toward the same goal. But I think that’s where groups like the Pet Sustainability Coalition really come in and help bring us together, get us all on the same page, and get us communicating and talking about what we’re doing. We’re not competing with each other on this. We are working together on this.

 

                               So it is a great way, a great organization, to guide us into working together. And all kudos to PSC for being open and willing, and starting these discussions, and figuring out ways to get people who may be competitors to share ideas and work together.

 

Tom:                      All right, Hannah, back to you. While there might be some debate over it still, climate change appears to be a given in the agri-food industry. How is climate change impacting the industry now, and what are some anticipated future impacts?

 

Hannah:                  One of the big ways that climate change is impacting the industry is really what the changing climate means for farming. So, you think about changes in precipitation patterns, changes in extreme weather events, reductions in water availability, negative impacts on biodiversity like pollinators, sea level rise rate. Think about drier areas getting drier, wetter areas getting wetter. All of this obviously has an impact on productivity and yield, so we will likely see more disruption of the supply chain because of this.

 

                               But one of the solutions, actually — Jim mentioned this earlier — that PSC is really focused on is looking at ways to transition our food system to a more regenerative agricultural system, meaning that farmers are working with the land in these age-old, proven ways to support the soil health, which ultimately makes the whole system more resilient to the changes that are ahead. And this type of farming can also create more of a carbon sink, sequestering more carbon in the soil, in the plants, which ultimately contributes to the solution.

 

Tom:                      Jim, does the industry have any data indicating that consumers are paying attention to companies that employ sustainable production methods? Is it having a market impact?

 

Jim:                         It sure is. It sure is. Some of these numbers that I’m gonna give you are from Packaged Facts, which is a great industry body that does surveys to all consumers. 87% of consumers are actively looking for products that reduce packaging waste, 82% of consumers are concerned with environmental footprint of pet products that they buy, 71% of consumers are willing to pay more for sustainable products. And what’s really interesting is that Gen Z and millennials are the most concerned and most likely to make purchasing decisions around sustainable products, of any generation in history.

 

                               And this is turning into revenue for brands. So, brands that focus on sustainability have grown 7.1 times faster versus their conventional counterparts in the last five years. All of this combines to reduced costs for these brands, increased customer loyalty, and develops a more resilient supply chain.

 

                               And on top of all of that, not only is it better for the brands and their revenue, but we’re seeing these government regulations and laws that are coming out. In the EU, they’ve launched something called the CSRD, which requires brands to report on their carbon impact and have a plan to reducing their carbon footprint. In the U.S., the SEC just released rules in March of this year that any brand that’s over $75 million in revenue has to report on their carbon emissions. So, not only is it these bigger brands that have to report on it, but it also goes through the entire supply chain.

 

                               So, imagine that you’re a farmer or an ingredient supplier that is supplying one of these larger companies. The larger company’s requiring to understand the carbon footprint of your particular ingredient so that they can calculate their entire footprint. So it’s having ripple effects through the entire industry where it has been a wonderful thing from — we call it the carrot. The carrot of sustainability is that it increases customer loyalty. It should help grow your brand, increase revenue, increase velocity at store, but now there is more of a stick approach that is coming quickly that you’ll be required to have these initiatives in place. And so, it is a little bit of a plug for PSC, but we really exist to help brands navigate these waters so that we can help them identify what is not only beneficial for the environment, but sustainability doesn’t have to cost more. You actually can do a lot of measures that will not only be sustainable but reduce your cost as a business. So we like to find win-wins for our brands and then provide a roadmap toward more difficult sustainability measures going forward.

 

Tom:                      That generational data is really interesting. It really says something about the future, doesn’t it?

 

Jim:                         It sure does.

 

Tom:                      All right, that’s Jim Lamancusa, executive director of the Pet Sustainability Coalition. Thank you, Jim.

 

Jim:                         Appreciate being here.

 

Tom:                      Hannah Tirrell-Wysocki, Pet Sustainability Coalition accreditation manager. Thank you, Hannah.

 

Hannah:                  Thank you.

 

Tom:                      And Alltech’s North American companion animal sales manager, Kami Grandeen. Thank you so much, Kami.

 

Kami:                      Thanks, Tom.

 

Tom:                      And for AgFuture, I’m Tom Martin.

<>Premium Content
Off
<>Featured Image
black and white dog running on grass
<>Date
<>Featured Image License
Off
<>Feature
Off
<>Primary Focus Area
<>Article Type
<>Image Caption

The Pet Sustainability Coalition (PSC) is a nonprofit organization that accelerates sustainability in the pet industry through education, implementation tools and collaboration.

Proteger la salud de las articulaciones

Submitted by mmolano on Thu, 05/23/2024 - 05:48

Salud articular en perros y gatos

Los huesos y las articulaciones sufren un desgaste continuo como consecuencia de actividades como correr y saltar. Con el paso del tiempo esto puede causar problemas; haciendo que sea más difícil para las mascotas mantener el mismo ritmo de vida que llevaban antes.

Por lo general, los perros no muestran signos de dolor o malestar debido a sus articulaciones hasta que el problema está presente durante un tiempo. Por lo que es importante tener en cuenta esto, sobre todo con perros de edad avanzada y aquellos que tienen una predisposición genética a tener problemas de cadera y  articulaciones como labradores, pastores alemanes o la mayoría de otras razas grandes. Otros animales, como el corgi o el teckel, tienen predisposición a ciertos trastornos relacionados con la columna vertebral debido a sus cuerpos alargados.

Ya tenga un gato siamés o un perro gran danés, las articulaciones de las mascotas son resistentes. Sin embargo, debido a su predisposición a jugar fuera, subir y bajar escaleras, o saltar sobre los muebles; con el tiempo sus articulaciones pueden desgastarse o dañarse.

Como siempre: ¡más vale prevenir que curar! Adoptar un enfoque de prevención y proporcionar a su perro y/o gato diariamente un suplemento para sus articulaciones; puede proteger a largo plazo su salud articular y ofrecerle la posibilidad de correr, jugar y disfrutar la vida durante más tiempo.

¿Cómo puede la nutrición proteger la salud articular de su mascota?

Muchos suplementos para las articulaciones de los animales de compañía nos indican que los minerales traza son elementos esenciales de varios componentes de las articulaciones (como el hueso, el cartílago o el colágeno). Por ejemplo:

  • Se ha demostrado que el zinc tiene un efecto estimulador sobre la formación de los huesos y un efecto inhibitorio sobre la resorción ósea (con lo que aumenta la masa ósea).
  • El cobre es un cofactor de la enzima lisil-oxidasa; la cual es necesaria para el desarrollo y la reticulación del colágeno.
  • El hierro es un cofactor de las enzimas prolil-hidroxilasa y lisil-hidroxilasa; que son importantes para la síntesis del colágeno.
  • El selenio ayuda a reforzar la salud de las articulaciones a largo plazo y también se cree que puede prevenir la displasia de cadera.
  • El manganeso es un cofactor involucrado en la formación y elongación de las cadenas de los glicosaminoglicanos; que forman la sustancia fundamental de la matriz del cartílago.

Signos que indican problemas articulares en las mascotas:

  • Dificultad o reticencia a moverse, subir o bajar escaleras, o entrar al coche.
  • Letargo.
  • Menos disposición a realizar ejercicio físico o jugar.
  • Rigidez y/o cojera.
  • Inflamación de las articulaciones.
  • Lamido insistente en las zonas de dolor.

¿Cómo cuidar la salud articular de su mascota?

Puede prevenir las enfermedades articulares en su mascota con estos consejos:

  • Priorizar una correcta nutrición y controlar su peso: Proporcionar una buena alimentación siempre es la medida preventiva más importante para proteger la salud articular de su mascota. Ofrecerle una dieta de calidad (en la cantidad adecuada) es fundamental. Una sobrealimentación –especialmente a largo plazo– puede provocar dolor articular tanto en gatos como en perros.
  • Ejercitar a la mascota debidamente: Mantenga a su perro y/o gato ejercitado antes de que aparezcan los problemas articulares. La actividad física ayuda a controlar el peso; y la cantidad adecuada de ejercicios mejora la circulación sanguínea y “bombea” los nutrientes esenciales a las articulaciones. No lo esfuerce demasiado, pero definitivamente que los ejercicios sean una prioridad diaria.
  • Adecuar sus espacios: Si puede acondicionar el entorno de su mascota para que este tenga un impacto positivo sobre sus articulaciones, ¡entonces hágalo! Esto podría incluir una rampa para entrar al coche, escaleras para subir y bajar de la cama, etc. Evite también comportamientos que provoquen un estrés excesivo y repetitivo que afecten sus articulaciones; lo que podría prevenir futuros problemas articulares.

Soluciones Alltech

BIOPLEX®

Bioplex son minerales que están unidos a aminoácidos y una variedad de péptidos. Se absorben y se metabolizan fácilmente, dando lugar a:

  • Mayor biodisponibilidad de oligoelementos.
  • Excreción reducida de oligoelementos.

SEL-PLEX®

Respaldado por más de 19 años de investigación, Sel-Plex es la forma más probada de levadura enriquecida con selenio.

  • Favorece un estado antioxidante saludable en todas las fases de la vida.
  • Promueve el valor nutritivo de los alimentos y golosinas para mascotas.
  • Contribuye a una función inmunitaria normal en perros adultos y senior.
  • Favorece la transferencia eficaz de selenio de la madre a los cachorros.
<>Premium Content
Off
<>Featured Image
<>Date
<>Featured Image License
Off
<>Feature
Off
<>Primary Focus Area
<>Article Type

Estresse térmico em vacas leiteiras

Como o estresse térmico afeta as vacas leiteiras?

O estresse térmico pode diminuir o consumo da dieta pelas vacas, diminuir a produção de leite e alterar a composição do mesmo. Também pode ter um impacto negativo nas taxas de reprodução. As vacas demonstram estresse térmico de muitas maneiras, e o impacto pode ser visto a curto e longo prazo. Entender essa questão e como combatê-la é fundamental para os produtores que manejam rebanhos em climas quentes e úmidos ou em áreas onde ocorre calor extremo durante os meses de verão.

 

Sinais de estresse térmico em vacas leiteiras

  • Aumento da respiração (respiração ofegante de boca aberta)
  • Letargia
  • Salivação excessiva
  • Redução do consumo da dieta
  • Aumento do consumo de água
  • Redução na taxa de ruminação
  • Menor produção de leite
  • Acidose

Prevenção do estresse térmico em vacas leiteiras:

  • Forneça sombra: As vacas apresentam taxas respiratórias mais controladas, temperaturas corporais estáveis e menor irritação quando é fornecida sombra adequada.
  • Limpe os cochos de água regularmente: As vacas podem chegar a consumir entre 48 a 89 litros de água, dependendo do sistema de produção, em um dia normal, mas podem beber até 50% a mais quando os índices de temperatura e umidade aumentam. Fornecer água fresca e limpa incentivará as vacas a beberem mais e se manterem hidratadas.
  • Aproveite os horários mais frescos para o trato: As vacas não gostam de consumir alimento quente, e as dietas completas (TMR) são propensas ao aquecimento quando deixadas expostas. Ao misturar, descarregar e alimentar pela manhã, as vacas podem comer antes que a dieta fique quente e ruminar durante as horas mais quentes do dia.
  • Fique atento às inconsistências do esterco: Quando a vaca está passando por estresse térmico, há uma redução na eficiência da fermentação ruminal, levando à perda da utilização de nutrientes. A reformulação da dieta pode ajudar a alcançar o potencial nutricional ideal durante os períodos de diminuição da ingestão de matéria seca.
  • Garanta o acesso ao cocho: A redução na ingestão é comumente relacionada ao estresse térmico. Ao fornecer acesso contínuo à dieta, as vacas comerão pequenas quantidades ao longo do dia, o que ajudará a reduzir o aquecimento térmico que, de outra forma, seria produzido pelo consumo de grandes refeições.
  • Use aspersores e ventiladores: Observe onde as vacas estão se reunindo. Por que elas estão lá? Há um aspersor em outro lugar do galpão? Os ventiladores estão fornecendo fluxo de ar? Mesmo que você tenha um equipamento de resfriamento, certifique-se de que ele esteja localizado em um local adequado e funcionando corretamente.
  • Reduza o tempo gasto em currais de espera: Um dos principais problemas com o estresse térmico é que o ambiente é quente demais para dissipar o calor vindo das vacas. Manter as vacas em currais fechados por períodos prolongados limita o espaço e o fluxo de ar.
  • Não feche os animais durante o meio-dia: As vacas são inteligentes e se afastam de áreas muito quentes, mas apenas se tiverem espaço para isso. Ao permitir que elas tenham liberdade para se mover durante o horário mais quente do dia, elas podem escolher locais mais frescos no galpão para ficarem.
  • Disponibilize volumosos mais digestíveis e de alta qualidade: Como as vacas são propensas a comer menos quando estão em estresse térmico, o acesso eficiente aos nutrientes é essencial para a saúde e a produção. Forrageiras de primeiro corte ou fermentadas fornecem energia sem exigir tanta ruminação quanto volumosos mais fibrosos, reduzindo, assim, o aquecimento temporário.
  • Utilize um aditivo probiótico a base de leveduras: Aditivos à base de leveduras estimulam as bactérias no rúmen que são responsáveis pela digestão de fibras e remoção de ácidos. Isso ajudará na melhoria da eficiência da fermentação e evitará a acidose.

Entendemos que o estresse térmico tem um impacto significativo em sua produção e estamos aqui para ajudar, seja fornecendo suporte na fazenda e ferramentas educacionais ou produtos desenvolvidos para ajudar a prevenir o estresse térmico.

<>Alt Page Title
Estresse térmico
<>Featured Image
Estresse térmico
<>Focus Area
<>Product Queue
<>Product Queue Header
Produtos Alltech
<>Sidebar Menu Selection
<>Hubspot Embed
<>Contact Icons
<>Contact Header

Entre em contato conosco

<>Service

Micotoxinas em vacas leiteiras

O que são micotoxinas?

As micotoxinas são substâncias nocivas, de ocorrência natural, produzidas por certos bolores (fungos). Esses fungos geralmente crescem nos ingredientes da dieta e tendem a se multiplicar durante condições climáticas adversas. Mais de 500 micotoxinas foram identificadas até o momento, e esse número está aumentando constantemente.

Ameaça de micotoxinas para ruminantes

Os ruminantes são geralmente considerados menos suscetíveis a micotoxinas do que os monogástricos. Acredita-se que isso ocorra porque a microbiota ruminal degrada e inativa micotoxinas na alimentação. No entanto, várias micotoxinas resistem à degradação ruminal, assim os ruminantes muitas vezes precisam lidar com uma infinidade de desafios porque sua dieta combina concentrados e volumosos. As vacas no período de transição são particularmente sensíveis a bolores, esporos de fungos e micotoxinas.

Fontes de micotoxinas

A presença de micotoxinas em volumosos, como feno e silagem, representa a maior ameaça aos bovinos leiteiros. Mesmo o capim fresco da pastagem pode ser contaminado com várias micotoxinas. Tipicamente, tratam-se de fungos endófitos que produzem micotoxinas, que protegem a planta de alguma forma, como ergovalina e lolitrem B, bem como micotoxinas produzidas por Fusarium, Zearalenona ou Desoxinivalenol (DON).

A gama de micotoxinas

As micotoxinas raramente ocorrem isoladamente. Não é incomum encontrar múltiplas micotoxinas na dieta final, o que possibilita interações entre elas, levando a efeitos sinérgicos ou adicionais.

PPara obter mais informações sobre tipos específicos de complicações relacionadas a micotoxinas, visite nosso site. https://www2.knowmycotoxins.com/pt

Sinais de micotoxinas em vacas leiteiras

Os sinais clínicos podem variar dependendo do tipo específico de micotoxina, da dose ingerida e do período de exposição, mas podem incluir:

  • Imunossupressão

  • Diminuição do consumo da dieta

  • Redução da produção de leite

  • Perda de peso

  • Função ruminal prejudicada

  • Dano hepático

  • Mastite aguda

  • Menores taxas de concepção

  • Abortos

  • Claudicação

  • Diarreia

  • Cetose

Manejo de micotoxinas em vacas leiteiras

Reduzir a exposição a essas substâncias nocivas é fundamental. Detecção, prevenção e mitigação são fundamentais para uma estratégia eficaz de manejo de micotoxinas.

A análise regular dos ingredientes da dieta dos animais pode ajudar a descobrir potenciais ameaças de micotoxinas. Vale ressaltar que uma amostra altamente contaminada não significa que toda a lavoura é ruim. Da mesma maneira, uma amostra "limpa" não garante que toda a sua dieta esteja livre de micotoxinas. O manejo adequado das micotoxinas é essencial para evitar perdas e manter um rebanho de alta produção.

Entendemos que as micotoxinas podem ter um impacto significativo nos resultados de seu rebanho e estamos aqui para ajudar, seja fornecendo suporte na fazenda ou ferramentas adequadas no combate às micotoxinas, a fim de evitar perdas e manter um rebanho de alta produção.

<>Alt Page Title
Micotoxinas
<>Featured Image
Micotoxinas
<>Focus Area
<>Product Queue
<>Product Queue Header
Produtos Alltech
<>Hubspot Embed
<>Contact Icons
<>Contact Header

Entre em contato conosco

<>Service

Custo da dieta

Como faço para manter os custos de dieta de vacas leiteiras baixos?

Essa é uma dúvida comum entre os produtores de leite. Com os custos da dieta representando até 60% do investimento total da produção, não é surpreendente que a maioria dos produtores estejam interessados em aprender maneiras de reduzir gastos com a dieta.

É claro que muitas variáveis influenciam os custos de alimentação, incluindo valores de commodities, preços de mercado e disponibilidade local. A variabilidade, qualidade e a palatabilidade também devem ser sempre consideradas ao avaliar dietas, e é fundamental basear sua avaliação no retorno sobre os custos da ração – e não apenas nos custos da ração. Gastar um pouco mais com alimentação pode realmente ser mais lucrativo se isso significar que as vacas estão tendo uma maior produção de leite, maior eficiência reprodutiva ou são geralmente mais saudáveis. No entanto, ainda existem várias maneiras de reduzir os custos da dieta e maximizar os retornos.

Que medidas posso tomar para reduzir os custos com alimentação para vacas leiteiras?

  • Tenha atenção quanto à qualidade da sua forragem. A forragem desempenha um papel importante na dieta das vacas. A utilização de forrageiras de menor digestibilidade em maiores taxas de inclusão reduzirá a produção de leite. A inclusão de forrageiras de maior qualidade, por sua vez, pode ajudar a manter a saúde ruminal, além de melhorar a composição e a produção do leite.
  • Lotes com vacas padronizadas podem ter suas dietas de acordo com a exigência nutricional de cada animal. Quando a mesma ração é fornecida a um lote grande de vacas em lactação, você pode estar superalimentando uma porcentagem significativa de seus animais. As dietas são tipicamente formuladas para suprir as demandas nutricionais dos animais mais produtivos, o que pode resultar em superalimentação de animais menos produtivos e na utilização ineficiente de nutrientes. Dividir as vacas em lactação em lotes menores e oferecer rações específicas permite uma nutrição mais precisa, aumenta o retorno sobre o custo da ração e diminui a excreção de nutrientes nas fezes.
  • Diminua os desperdícios de ingredientes. Mesmo uma correção para redução, aparentemente pequena, pode ter um grande impacto em seus resultados. O primeiro passo é identificar onde a perda está acontecendo. Seja causada por fatores ambientais, como vento, roedores ou aves, ou outras variáveis, como derramamento ou deterioração, qualquer perda é um desperdício e reduzi-la faz uma grande diferença. Você também pode tomar medidas para minimizar perdas medindo a ingestão de matéria seca e garantindo a precisão de carregamento, a mistura adequada, o horário de fornecimento ideal e a manutenção do cocho.
<>Featured Image
Custo da dieta
<>Focus Area
<>Product Queue
<>Product Queue Header
Produtos Alltech
<>Sidebar Menu Selection
<>Hubspot Embed
<>Contact Icons
<>Contact Header

Entre em contato conosco

ออลเทค ฉลอง 25 ปี ดำเนินกิจการในประเทศไทย

Submitted by kpoolsap on Wed, 05/22/2024 - 10:21

ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ออลเทค จัดงานฉลองครบรอบ 25 ปี ของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เพื่อแสดงความขอบคุณต่อคู่ค้าและพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนด้วยดีตลอดมา และตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์และพัฒนาโซลูชั่นทางโภชนาการเพื่อความสำเร็จที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นของการเกษตรในประเทศไทย

 

ออลเทค เป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านโซลูชั่นทางโภชนาการที่ผ่านการค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์ สำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่เมืองเล็กซิงตัน รัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกา ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2523 โดย ดร.เพียร์ส ไลออนส์ (Dr. Pearse Lyons) นักวิทยาศาสตร์และนักธุุรกิจชาวไอริช และได้ขยายธุรกิจไปสู่ภูมิภาคอื่น ๆ เรื่อยมา ในปัจจุบัน ออลเทคดำเนินธุรกิจอยู่ในกว่า 120 ประเทศ มีศูนย์วิทยาศาสตร์ชีวภาพ 5 แห่ง และมีโรงงานผลิตมากกว่า 80 แห่งทั่วโลก

 

สำหรับประเทศไทย ออลเทคได้เข้ามาดำเนินกิจการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดในประเทศไทย และยังมีบทบาทการเป็นผู้ผลิตอาหารที่สําคัญของโลก เริ่มต้นด้วยทีมงานเพียงสองคน ออลเทค ประเทศไทย เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันมีบุคลากรมากกว่า 50 คน โดยโรงงานและคลังสินค้าแห่งแรกในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2549 และในปีพ.ศ 2558 ได้ย้ายสถานที่ผลิตมายังสถานที่ปัจจุบันในจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าได้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ตลอดระยะเวลา 25 ปี ออลเทค มุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมและบริการทางการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภาคปศุสัตว์ในประเทศไทย โดยผลิตภัณฑ์และบริการของออลเทคนั้น มุ่งเน้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ไปพร้อมกับดูแลสุขภาพและสวัสดิภาพของสัตว์ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคที่ดีขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์ “Working Together for a Planet of Plenty™” ของออลเทค

 

 

 

ออลเทค ฉลองครบรอบ 25 ปี ในประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

จากซ้ายไปขวา: เฮง อิก จิน, Regional director for Malindo and Southeast Asia; ดร.มาร์ค ไลออนส์ ประธานและซีอีโอ บริษัทออลเทค; โจนาธาน ฟอร์เรส วิลสัน ประธานออลเทค เอเชียแปซิฟิก

 

ทั้งนี้ ในงานฉลองครบรอบ 25 ปี มีการบรรยายพิเศษที่น่าสนใจหลายหัวข้อ ได้แก่  “Our present and future: Working Together for a Planet of Plenty™” โดย ดร.มาร์ค ไลออนส์ ประธานและซีอีโอ บริษัทออลเทค; “Technologies to drive economic and environmental sustainability” โดย นิค อดัมส์ Commercial Director,  Alltech Core Technology; “The role of agriculture in shaping the future” โดย โจนาธาน ฟอร์เรส วิลสัน ประธานออลเทค เอเชียแปซิฟิก และ “Together ​for a better future of ​Thai Agriculture” โดย เฮง อิก จิน Regional director for Malindo and Southeast Asia

ออลเทค มุ่งมั่นต่อเจตนารมณ์  Working Together for a Planet of Plenty (ทำงานร่วมกันเพื่อโลกแห่งความอุดมสมบูรณ์) ประเทศไทยเป็นตัวอย่างหนึ่งของความพยายามนั้นดร.มาร์ค ไลออนส์ ประธานและซีอีโอ บริษัทออลเทค กล่าว ด้วยความร่วมมือจากลูกค้าของเรา พวกเราได้พัฒนาการผลิตโภชนาการที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน และกำลังเพาะปลูกโลกที่อุดมสบูรณ์และงอกงามผ่านภาคการเกษตร-อาหารในประเทศไทย

ทีมงานของเราในประเทศไทยพร้อมทุ่มเทเพื่อที่จะนำความรู้ความชำนาญมาใช้สนับสนุนลูกค้าและการเกษตรของไทย” โจนาธาน ฟอร์เรส วิลสัน ประธานออลเทค เอเชียแปซิฟิก กล่าว สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความทุ่มเทของเราในการสร้างความร่วมมือที่ก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว และเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมภูมิทัศน์ทางธุรกิจในประเทศไทย ในวาระที่เราร่วมฉลองด้วยกันในวันนี้ ความมุ่งมั่นที่จะสร้างพันธมิตรและความร่วมมือที่ยั่งยืนยาวนานเป็นภารกิจสำคัญของเราที่นี่

 

<>Premium Content
Off
<>Featured Image
<>Date
<>Featured Image License
Off
<>Feature
On
<>Primary Focus Area
<>Article Type
<>Image Caption

ออลเทค ฉลองครบรอบ 25 ปี ในประเทศไทย ร่วมกับพันธมิตรในอุตสาหกรรม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

Proyecto CIMA powered by Alltech Crop Science

El grupo CIMA (powered by Alltech Crop Science) agrupa a expertos en agroalimentación para cultivar un cambio sostenible

Este es el objetivo de CIMA – un clúster empresarial conformado por grandes compañías interconectadas con un objetivo común – aumentar la productividad de sus explotaciones e impulsar la innovación y la sostenibilidad agrícola, que abarcan más de 20.000 hectáreas de cultivos de alto valor añadido, variando desde el olivar o

Comprendiendo el ciclo biológico del carbono

¿Pueden los rumiantes contrarrestar el cambio climático?

Una nueva serie de seis vídeos explora el ciclo del carbono durante el pastoreo y el papel del ganado en la mitigación del cambio climático.

Los resultados de la alianza de investigación Archbold-Alltech confirman los beneficios ambientales de los rumiantes en pastoreo.

Alltech y Archbold formaron una alianza estratégica de investigación en 2019 para desarrollar conjuntamente enfoques de manejo del vacuno de carne, específicamente para aumentar la calidad y la cantidad de carne de vacuno producida en regiones subtropicales mientras se mantiene y mejora el medio ambiente. La alianza Archbold-Alltech reunió a científicos de dos disciplinas diferentes, ecólogos de Archbold y nutricionistas de Alltech, para comprender el impacto que tiene la producción ganadera en el rancho Buck Island de Archbold en el ecosistema y la capacidad de secuestrar carbono.

En los últimos cinco años, la alianza de investigación ha creado un modelo para estimar la huella de carbono del rancho, y los resultados han sido asombrosos. En promedio, Buck Island Ranch secuestra más carbono cada año del que emite.

Es un sumidero neto de carbono. Esta investigación muestra que el pastoreo de animales rumiantes en la tierra beneficia al medio ambiente y mejora el ciclo del carbono. Los resultados confirman que la producción de carne de vacuno neutra en carbono, e incluso netamente positiva, es posible en Buck Island Ranch, un rancho de 10 500 acres en Lake Placid, Florida, y que ese mismo potencial probablemente se extienda a entornos de todo el mundo.

Para mostrar el trabajo que se está llevando a cabo en el rancho Buck Island, la alianza Archbold-Alltech ha lanzado una serie de seis vídeos de Planet of Plenty™ que explora el ciclo del carbono en las fincas con ganado en pastoreo y el papel que representa el secuestro de carbono en la mitigación del cambio climático, entre otros.

"Esta alianza de investigación reúne a científicos de varias disciplinas para colaborar en soluciones al cambio climático y demostrar el gran potencial de la ganadería para dar forma positiva al futuro de nuestro planeta", dijo el Dr. Mark Lyons, presidente y CEO de Alltech. "Estos emocionantes hallazgos en el rancho Buck Island de Archbold demuestran que capturamos más carbono cuando las vacas pastan en la tierra. Eso es profundamente poderoso".

"Cada año, secuestramos 1201 toneladas de CO2 equivalente en el rancho Buck Island de Archbold, y todo este trabajo es extensible a otras partes del mundo", dijo la Dra. Betsey Boughton, directora de agroecología de Archbold. "La narrativa que la gente ha escuchado es que las vacas son malas para el medio ambiente, pero los animales en pastoreo pueden cambiar la función de los pastizales. Las vacas comen la hierba y no permiten que se produzca tanta descomposición en el suelo. Sin vacas, en realidad, vemos más emisiones de carbono".

Aunque se trata de un tema complejo, la investigación ha demostrado que la ganadería puede ser una de las armas más poderosas en la lucha contra el cambio climático.

Esta colaboración ha descubierto una comprensión más profunda del ciclo del carbono cuando el ganado pasta, que no se centra únicamente en las emisiones de gases de efecto invernadero (GEI) del animal, sino también en las emisiones naturales de GEI de la tierra y el secuestro de carbono en el suelo. Las discusiones sobre los gases de efecto invernadero y el calentamiento global a menudo se centran en las emisiones ganaderas, pero es importante pensar más allá de las emisiones y mirar el ciclo completo.

La capacidad del suelo para secuestrar carbono es una parte fundamental de la historia.

Alltech Crop Science e Ideagro, que se unió a la familia de empresas Alltech en 2023, están estudiando cómo las poblaciones microbianas pueden enriquecer la química del suelo y la densidad de nutrientes, lo que conduce a un mayor secuestro de carbono en el suelo. El potencial de capturar carbono en el suelo presenta una oportunidad significativa para que la comunidad agroalimentaria asuma su papel fundamental en la lucha contra el cambio climático y, al mismo tiempo, mejore la salud del suelo, aumente el rendimiento de los cultivos y promueva la biodiversidad.

Vídeos adicionales

 
<>Hubspot
<!--[if lte IE 8]>
<script charset="utf-8" type="text/javascript" src="//js.hsforms.net/forms/v2-legacy.js"></script>
<![endif]-->
<script charset="utf-8" type="text/javascript" src="//js.hsforms.net/forms/v2.js"></script>
<script>
hbspt.forms.create({
region: "na1",
portalId: "745395",
formId: "c5b68a83-7a2c-4f8c-866e-3524b466adad"
});
</script>
<>Featured Header Hubspot Embed

Contacta con nuestro equipo

<>Accordion

Dairy Global: Assessing GHG emissions: Enhancing efficiency and sustainability

Submitted by jnorrie on Mon, 05/20/2024 - 20:03

Alltech’s commitment to sustainability extends beyond mere emissions reduction. It’s part of Alltech’s vision of a Planet of Plenty, in which natural resources are preserved and agricultural practices nourish both people and the planet, addressing such crucial issues as climate change mitigation and food security for a growing global population.

Click for full article. 

Loading...