บทสัมคุณภาษณ์ทอม ลอเรนซา ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการฟาร์มโคนมของออลเทค

ทอม: ความร้อนและความชื้นในช่วงฤดูร้อนก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพและผลผลิตของฝูงสัตว์ได้ เป็นที่เข้าใจได้ว่าความร้อนจากความเครียดนี้เป็นสิ่งที่ทางผู้ผลิตเองไม่สามารถควบคุมได้ทั้งในเรื่องอุณหภูมิและความขื้นในอากาศ ตอนนี้เราอยู่กับคุณทอม ลอเรนเซน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโคนมของออลเทค ผู้ตรวจสอบและเป็นวิทยากรโรงเรียนสอนเทคนิคการรีดนมรวมทั้งนำเสนอผลงานเรื่องคุณภาพน้ำนม เพื่อพูดคุยกันในเรื่องการเข้าถึงโภชนาการอาหารเพื่อป้องกันการเกิดความเครียดจากความร้อนในช่วงฤดูร้อนนี้ ขอบคุณมากครับคุณทอมที่มาร่วมพูดคุยกับเรา

ทอม แอล: ขอบคุณครับ

ทอม: ก่อนอื่น คุณช่วยอธิบายถึงลักษณะคลื่นความร้อนให้เราฟังหน่อยได้ไหมครับ?

ทอม แอล: นั่นเป็นคำถามที่ดีเลยครับ ผู้คนในวิสคอนซินเผชิญกับหิมะหนาที่ 20 – 30 นิ้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้นเรื่องคลื่นความร้อนอาจไม่ใช่ประเด็นที่พวกเขาจะพูดถึง แต่เรากำลังจะคุยกันในเรื่องของความเครียดจากความร้อนในโคนม หรือเป็นช่วงที่สภาพแวดล้อมนั้นไม่อยู่ในช่วงระดับที่เหมาะสมสำหรับวัวหรือที่ประมาณ -4 ถึง 20 องศาเซลเซียส

ทอม : แล้วอะไรที่จะเป็นปัจจัยบ่งชี้ขั้นรุนแรงได้บ้างครับ? คุณรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไรถึงจุดที่เลวร้ายจริงๆ?

ทอม แอล: อุณหภูมิอากาศ, ความชื้นสัมพัทธ์และการเคลื่อนที่ของอากาศ, รังสีจากดวงอาทิตย์ ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่มีผลกับความเครียดจากความร้อน เมื่อวัวเกิดความเครียดจากความร้อนเราจะเห็นได้ว่าวัวจะเริ่มหายใจเร็วขึ้น และเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นหรือเมื่อเกิดความเครียดมากขึ้น เราจะเห็นอัตราการหายใจถี่ขึ้นด้วย ผมมักพูดเสมอว่าให้หยุด สังเกตและฟังวัวของท่าน เมื่อผมเห็นว่าวัวอ้าปากกว้างและหายใจหอบแรงเร็ว คุณสามารถแน่ใจได้ว่ามันเกิดความเครียดจากความร้อน ทั้งนี้วัวสามารถลดความเครียดจากความร้อนได้เล็กน้อยโดยธรรมชาติจากการขับเหงื่อ แต่วัวขับเหงื่อเพียงแค่ 1% เท่านั้นเมื่อเทียบกับคน

ทอม : แล้วเกิดผลกระทบอย่างไรต่อวัวบ้างเมื่อเกิดความเครียดจากความร้อน?

ทอม แอล: เราจะเห็นได้ว่าวัวจะหายใจหอบและน้ำลายไหลมากขึ้น เป็นผลให้ปริมาณน้ำลายเข้าสู่กระเพาะอาหารส่วนรูเมนลดลง ซึ่งเป็นผลเสียต่อภาวะสมดุลในกระเพาะรูเมนทำให้เกิดภาวะความเป็นกรดนั่นเอง เราจะสังเกตได้ว่าวัวจะกินอาหารน้อยและมีการเคี้ยวเอื้องน้อยลง ทำให้ผลผลิตน้ำนมลดลง

ทอม : จะเกิดอะไรขึ้นต่อปริมาณการผลิตน้ำนมเมื่อต้องเผชิญกับสภาวะนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่ความเครียดจากความร้อนนานขึ้น?

ทอม แอล: เมื่อวัวประสบกับปัญหาความเครียดจากความร้อน สิ่งแรกที่เราเห็นได้เลยคือ การกินอาหารลดลง เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เราจะเห็นได้ว่าผลผลิตน้ำนมลดถึง 4 ลิตรต่อวัน

ทอม : แล้วอย่างนี้มีผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ด้วยหรือไม่ครับ?

ทอม แอล: แน่นอนครับ มันมีผลกระทบต่อความสมบูรณ์พันธุ์ ส่งผลให้ช่วงระยะเวลาการให้นมและวันท้องว่างนานขึ้น เราจะเห็นได้ว่าเกิดผลกระทบมากมายจากความเครียดจากความร้อน

ทอม : มีเครื่องมือที่สามารถช่วยลดความเครียดจากความร้อนนี้ได้บ้าง เช่น พัดลม, เครื่องฉีดน้ำ แล้วในส่วนของกลยุทธ์ด้านการจัดการโภชนาการล่ะครับ?

ทอม แอล: เรื่องแรกที่ผมอยากกล่าวถึงคือเรื่องของน้ำ น้ำเป็นสิ่งที่สำคัญมากเนื่องจากเป็นส่วนประกอบของน้ำนมถึง 85% ดังนั้นเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น วัวจึงต้องการน้ำเพิ่มขึ้นนั่นเอง วัวสามารถดื่มน้ำได้เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่ออุณหภูมิและค่าความชื้นสูงขึ้น โดยที่สามารถดื่มน้ำได้ถึง 20 – 32 แกลลอนต่อวันเมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงเกิน 30 องศาเซลเซียส

ทอม : ปัจจัยอื่นที่ในด้านโภชนาการน่าจะเป็นเรื่องของพลังงาน ทำไมการเพิ่มค่าพลังงานในอาหารจึงเป็นสิ่งจำเป็นระหว่างช่วงเกิดคลื่นความร้อน?

ทอม แอล: เมื่ออุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น วัวจะกินอาหารน้อยลง ซึ่งเป็นผลให้เกิดการดูดซึมสารอาหารน้อยลงด้วย ดังนั้นการเพิ่มพลังงานในอาหาร โดยการใช้ไขมันไหลผ่าน สามารถช่วยรักษาค่าพลังงานในอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการได้

ทอม : ต่อกันที่เรื่องของโปรตีน ความเครียดจากความร้อนมีอิทธิพลอย่างไรต่อการกินโปรตีนบ้างครับ?

ทอม แอล: ก็เหมือนทั่วๆไป แหละครับ เมื่อค่าความเครียดจากความร้อนเพิ่ม เราจะเห็นว่าเกิดการกินได้ของวัตถุแห้งน้อยลง และทำให้ระดับโปรตีนลดน้อยลงในช่วงนี้ เกิดผลเสียต่อสมดุลไนโตรเจน ส่งผลให้ผลผลิตน้ำนมลดลง, ภูมิต้านทานโรคและระบบสืบพันธุ์ ทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาคือการเพิ่มค่าความเข้มข้นของโปรตีนในสัดส่วนอาหารพร้อมๆ กับต้องมั่นใจได้ว่ามาจากแหล่งโปรตีนที่วัวสามารถย่อยได้ด้วย

ทอม : ผมเข้าใจว่าระหว่างช่วงที่ความร้อนสูงขึ้นนั้น เป็นสิ่งสำคัญมากที่ต้องรักษาระดับเยื่อใยในอาหาร แต่การย่อยเยื่อใยในอาหารนี้กลับทำให้ความร้อนเพิ่มสูงขึ้นด้วย เราจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไรครับ?

ทอม แอล: ในช่วงระหว่างการเกิดความเครียดจากความร้อนนี้จะมีช่วงที่เกิดความเสี่ยงสูงของการเกิดภาวะกรดในกระเพาะรูเมนเนื่องจากกินอาหารน้อยลง เพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องนี้ การรักษาระดับใยอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ อย่างไรก็ตามอาหารสัตว์ส่งผลให้ค่าความร้อนสูงขึ้นได้ ดังนั้นเราควรมีการติดตามคุณภาพและการย่อยอาหาร อาหารสัตว์ที่มีคุณภาพดีนั้นทำให้เกิดการย่อยได้เร็วในกระเพาะรูเมนส่งผลให้กระเพาะรูเมนมีสุขภาพดีและช่วยให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุดจากการเพิ่มอาหารที่มีค่าพลังงานในช่วงการผลิตน้ำนม

ทอม : ประเด็นสุดท้ายครับ ในแง่ของแร่ธาตุนั้น อะไรเป็นหน้าที่ของแร่ธาตุคือช่วยวัวในแง่ของการต่อสู้กับความร้อนครับ?

ทอม แอล: อย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้ว ความเครียดจากความร้อนทำให้เกิดภาวะการหลั่งน้ำลายที่มากขึ้น ซึ่งน้ำลายเป็นตัวปรับสมดุลที่สำคัญในระบบของวัว ตัวปรับสมดุลอื่นๆ เรามองไปที่การเพิ่มแร่ธาตุพวกโซเดียม, โพแทสเซียมและแมกนีเซียมเพื่อลดความเครียดในช่วงนี้ได้ครับ

ทอม : คุณมีเคล็ดลับสำหรับผู้ผลิตทั้งหลายในการจัดการอย่างไร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับช่วงหน้าร้อนนี้บ้างไหมครับ?

ทอม แอล: เราจำเป็นต้องเตรียมน้ำสะอาดให้มากพอ อีกส่วนที่สำคัญคือจัดหาพัดลมหรือเครื่องฉีดน้ำเพื่อให้วัวเย็นขึ้นพร้อมๆ กับจัดหาแหล่งพักที่เป็นร่มเงาให้แก่วัวด้วย ความท้าทายอย่างหนึ่งที่สำคัญคือความแออัดของฝูงวัว หากวัวอยู่แออัดเกินไป มันจะไม่ไปที่ห้องพักเพื่อกินหรือนอนพัก ยังมีสิ่งสำคัญอื่นๆ อีกมากมายหลายอย่าง สุดท้ายและนับเป็นสิ่งที่สำคัญมากคือ เราต้องตรวจสอบสิ่งต่างๆ จากสัปดาห์ก่อนหน้านี้เสมอ เช่น ตรวจสอบการตั้งครรภ์ หรือหากมีการเคลื่อนย้ายวัวหรือการผสมวัว เราอาจต้องทำในช่วงเช้าตรู่เพื่อลดความเครียดของวัวเป็นต้น

ทอม : ขอบคุณมากครับทอมที่สละเวลามาอยู่กับเรา

ทอม แอล: ขอให้มีวันที่ดีนะครับ

ทอม : และนี่คือคุณทอม ลอเรนเซน ผู้เชี่ยวชาญด้านวัวนมจากออลเทคครับ

ผลสำรวจจาก 84% ของเกษตรกรในสหรัฐอเมริกากล่าวว่าพวกเขาได้ใช้เทคโนโลยีทางการเกษตรเพื่อเก็บข้อมูลของสัตว์, การเพาะปลูก, การเก็บเกี่ยวและการจัดการป้องกันพืชผล แต่มีเพียงแค่ 42% เท่านั้นที่ส่งต่อข้อมูลต่อไปยังซอฟแวร์ที่ใช้ในการจัดการข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ต่อไป

คำถามคือ: ผู้ผลิตจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้อย่าไรให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์เมื่อข้อมูลถูกเก็บรวบรวมแล้ว?

เครื่องผสมอาหารคีแนน (KEENAN) หนึ่งในเทคโนโลยีการให้อาหารสัตว์ได้ยกระดับก้าวผ่านความท้าทายนี้โดยการขยายข้อมูลสู่เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบตรวจติดตามอินทัช (InTouch) ซึ่งสามารถแนะนำแนวทางการแก้ปัญหาได้แบบเรียลไทม์

“เราเชื่อมต่อระบบต่างๆ ด้วยอินเตอร์เน็ต (Internet of things – IoT) มาตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2554” โคแนน คอนดอน ผู้บริหารระบบอินทัชคีแนนกล่าว “ในตอนนั้น เรายังไม่ได้มีการเชื่อมต่อข้อมูลมากนักเพียงแค่ 12 ล้านเครื่องมือเชื่อมต่อกันเท่านั้น แต่ในวันนี้มีการเชื่อมต่อเครื่องมือในระบบกว่าเกือบ 64 พันล้าน

ในปัจจุบันมีการจัดการสัตว์กว่า 2,000 ตัว การคัดแยกช่วงขนาดวัวจาก 10 ถึง 1,000 ตัวโดยใช้ระบบติดตามอินทัช (InTouch System) การรายงานผลสดและการบริการข้อมูลเพื่อช่วยเหลือผู้ผลิตในการปฏิบัติการแก้ปัญหาอย่างชาญฉลาดระหว่างการปฏิบัติการ รวมทั้งให้ข้อมูลการประเมินเครื่องผสมอาหารคีแนนจากการติดตตามวัวกว่า 1.3 ล้านตัว

เทคโนโลยีตรวจติดตามระบบอินทัช : ปฎิบัติการผ่านข้อมูลในวันนี้

ระบบตรวจติดตามอินทัชคีแนนนั้นเป็นเรื่องพื้นฐานโดยใช้การสื่อสารผ่านฐานข้อมูลผ่านคลาวด์ซึ่งสามารถติดตามผลได้แบบเรียลไทม์ ระบบรองรับวัตถุดิบอาหารสัตว์ทุกประเภทที่ใช้กับเครื่องผสมอาหารเพื่อให้เกิดความสม่ำเสมอในการสั่งการและสัดส่วนการผสม จึงเป็นการช่วยให้การป้อนอาหารสัตว์และปรับปรุงประสิทธิภาพและกำไรของสัตว์เป็นไปด้วยความสม่ำเสมอคงที่



สำหรับผู้ผลิตที่กำลังมองหาทางเลือกในการแปลและจัดการข้อมูลอยู่นั้น ระบบตรวจติดตามอินทัชสามารถช่วยเหลือในกระบวนการท่านได้เนื่องด้วยข้อมูลจะถูกส่งผ่านไปยังเครื่องรับอัตโนมัติในทุกๆ การบรรจุอาหาร ไม่เพียงแต่รายงานเป็นเอกสารที่ทำให้การคัดออกล่าช้าไปอีกเท่านั้น แต่สามารถสะท้อนผลกลับได้ทันที สิ่งนี้เองที่ทำให้ผู้ผลิตสามารถตัดสินใจจากข้อมูลได้ทันทีเพื่อรักษาหรือพัฒนาความแม่นยำ ความคงที่ของสัดส่วนอาหาร ส่งผลให้สัตว์เกิดประสิทธิผลได้มากที่สุด ระบบอินทัชยังสามารถใช้ร่วมกับข้อมูลจากโปรแกรมและการบริการการจัดการฝูงสัตว์อื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น องค์กรการพัฒนาวัวนม และพบว่าเกิดผลลัพธ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้นด้วย

ความสะดวกเป็นอีกสิ่งสำคัญในระบบอินทัช ท่านสามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนการผสมอาหารผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์ผ่านศูนย์บริการลูกค้าของอินทัชหรือตั้งค่าผ่านโดนตรงผ่านเครื่องผสมอาหารคีแนนก็ได้ นักโภชนาการสามารถเห็นสัดส่วนการเปลี่ยนแปลงได้โดยตรงผ่านเครื่องชั่งน้ำหนักในเครื่องผสมอาหาร

การจัดการเครื่องบรรจุล่วงหน้าเองและเวลาในการผสมทำให้เกิดการคลาดเคลื่อนของความแม่นยำในการบรรจุ การแนะนำการผสมอาหารนั้นขึ้นอยู่กับชนิด, ขนาดความยาวและระดับความชื้นของวัตถุดิบ โดยที่คำนวณจากรอบการผสมเพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากใยอาหารและเกิดความคงที่และทั่วถึง อ้างจากข้อมูลที่เก็บจากทั่วโลกกว่า 17 ปี

เพื่อผลกำไรสูงสุดของผู้ผลิต บริการช่วยเหลือของทางอินทัชจะช่วยติดตามทุกอย่างตั้งแต่ราคาวัตถุดิบ ผลของการป้อนอาหารเพื่อปรับสัดส่วนให้เหมาะสม แม่นยำเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด รายงานประสิทธิผลทั้งรายวัน รายเดือนและรายปีเพื่อประสิทธิภาพด้านอาหารสัตว์ ต้นทุนในการผลิตน้ำนม 45 กิโลกรัม, ผลกำไรต่อวัวหนึ่งตัวและแนวโน้มการผลิตจะถูกประเมินโดยอัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องทำการจดบันทึกอีกต่อไป การใช้ระบบตรวจติดตามอินทัช, ที่ปรึกษาฟาร์มทำให้เกิดรายงานสรุปเปรียบเทียบที่ทำให้เกิดการจัดการเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพและผลกำไรจากสัตว์ได้อีกด้วย

ความแตกต่างของ MechFiber

ฐานข้อมูลหลายปีจากวัวกว่า 1 ล้านตัวพบว่าเครื่องผสมอาหารคีแนนสามารถพัฒนาอาหารสัตว์เพื่อให้ตรงกับความต้องการของเกษตรกรได้ รวมทั้งเรื่องของรอกและใบพัดตั้งแต่ฟาร์มขนาดเล็กจนถึงขนาดกลางและเครื่องผสมล่วงหน้าที่มีการบรรจุขนาดใหญ่ขึ้นในฟาร์มขนาดใหญ่ เครื่องจักรเหล่านี้ถูกออกแบบเพื่อพัฒนาปรับปรุงสุขภาพกระเพาะอาหารรูเมน และรายงานผลประสิทธิภาพการปรับปรุงของผลผลิตจากสัตว์

เครื่องมีความคงทน ดูแลรักษาง่ายและใช้ต้นทุนเพียงเล็กน้อยสำหรับการจัดการรายวันและใบพัดที่ใช้ควบคุมการตัด มีระบบการทำงานที่เรียบง่าย ทำให้ไม่เกิดการปนเปื้อนของอาหารที่จะป้อนให้สัตว์กลุ่มหนึ่งสู่สัตว์กับกลุ่มอื่นๆ

เครื่องผสมอาหารแต่ละกันจะมีส่วนหลักอยู่ 2 ส่วน (ส่วนผสมและส่วนจ่ายอาหาร) ประกอบด้วยใบพัดทั้งหมด 6 ใบและระบบใบมีดที่เห็นได้ชัด ออกแบบเพื่อให้การผลิตสม่ำเสมอ, รวมเป็นเนื้อเดียวกัน เรียกว่า MechFiber ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องผสมอาหารคีแนน

การตรวจสอบแสดงให้เห็นว่า MechFiber คงสภาพโครงสร้างของใยอาหารไว้ได้ดีตามความจำเป็นต่อการกระตุ้นการเคี้ยวเอื้อง ส่งผลให้เกิดการดูดซึมพลังงานและการนำอาหารไปใช้ประโยชน์ได้เกิดประสิทธิภาพยิ่งขึ้น



เครื่องผสมอาหารคีแนนนั้นสามารถผลิตอาหารได้ในสัดส่วนที่คงที่สม่ำเสมอตั้งแต่จำนวนบรรจุน้อยๆ ที่ 5% จนถึงระดับกว่า 1 ตัน เครื่องคีแนนยังสามารถจัดการความคงที่สม่ำเสมอ ความเป็นเนื้อเดียวกันของส่วนผสมสำหรับอาหารแห้งที่มีขนาดเล็กสำหรับวัวระยะหยุดรีดนม, วัวให้นมระยะปลายและวัวสาวได้ดีอีกด้วย

นอกจากนี้ ออกแบบทำให้ประหยัดพลังงานได้สูงถึง 50% และยังเป็นการลดค่าซ่อมบำรุงรถลากและเครื่องผสมอาหารคีแนนได้อีกด้วย ซึ่งเครื่องผสมอาหารแนวตั้งที่ความจุเดียวกันไม่จำเป็นต้องมีรถลากในที่มีขนาดใหญ่กว่าและแพงกว่า เช่น รถลากที่ 120 แรงม้าสามารถจัดการเครื่องผสมอาหารที่ขนาด 1,000 คิวบิกฟุตได้ที่ระดับความเร็วรอบแนะนำที่ 1,200 – 1,500 ต่อนาที

เครื่องผสมอาหารคีแนนนั้นเริ่มขั้นตอนการผสมอาหารที่มีคุณภาพด้วยรูปแบบล้ำสมัยในปีพุทธศักราช 2530 และในปี 2559 นี้ทางบริษัทออลเทคฯ ได้เข้าซื้อกิจการคีแนนและเริ่มผลิตเครื่องผสมอาหารนี้ใหม่ในตลาดอเมริกาพร้อมๆ ใช้กลยุทธ์เชิงรุกทางด้านนวัตกรรมที่จะสร้างชื่อเสียงที่ดีทางด้านคุณภาพและประสิทธิผลของเครื่องผสมอาหารคีแนนในตลาด

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องผสมอาหารคีแนนได้ที่ www.keenansystem.com

ONE Alltech Ideas Conference (ONE19) torna dal 19 al 21 maggio 2019 a Lexington, nel Kentucky, per accogliere eroi di tutti i giorni, uniti dalla ricerca di ispirazione, motivazione e da un'idea significativa. ONE19 è una conferenza globale unica che trascende dalla cultura e dall'industria, presentando soluzioni guidate dall'innovazione per superare le sfide in agricoltura, affari, salute e benessere, produzione artigianale e vita quotidiana.

I relatori principali che saliranno sul palco della 35esima edizione di ONE includono Bear Grylls e Chris Zook.

 Bear Grylls, uno dei volti più noti della sopravvivenza e dell'avventura all'aria aperta, ha recitato in sette stagioni della serie televisiva "Man vs. Wild", nominata all'Emmy Award di Discovery Channel, che è diventata uno degli spettacoli più visti al mondo. Il pluripremiato conduttore del BAFTA si è formato in arti marziali fin da piccolo e le sue abilità di sopravvivenza sono state perfezionate in seguito durante il suo servizio nel 21° Reggimento speciale di servizio aereo. Quando un incidente di paracadutismo lo lasciò con una frattura, la grinta e la determinazione di Grylls guidarono la sua lunga guarigione. Proseguì diventando uno dei più giovani per raggiungere la vetta del Monte Everest.

Grylls è autore di best-seller, un colonnello onorario del Royal Marine Commandos, il più giovane capo scout britannico e il primo ambasciatore del World Scout Movement, rappresentando una famiglia globale di 50 milioni di scout.

Ad unirsi alla line-up è Chris Zook, autore di best-seller di libri su leadership e strategia aziendale e partner consultivo presso la rinomata società di consulenza Bain & Company. Zook è specializzato nel guidare le aziende a trovare nuove fonti di crescita redditizia e a rinnovarsi internamente per diventare più adattabili e imprenditoriali. È stato incluso dal Times di Londra nella sua lista semestrale dei "50 pensatori di business globali più influenti". È stato anche nominato "uno dei più interessanti pensatori strategici che lavorano oggi" da "The Financial Times Guide to Strategy".

Ogni anno partecipano a ONE The Alltech Ideas Conference circa 4.000 persone provenienti da oltre 70 paesi che si riuniscono per pensare e sognare in grande e per esplorare soluzioni per migliorare le loro attività e il mondo che li circonda. L'esperienza della conferenza si estende oltre il contenuto delle presentazioni, in quanto i partecipanti sono invitati a partecipare a tour e a mettersi in contatto con colleghi provenienti da tutto il mondo.

Mentre relatori di livello mondiale ci illumineranno nella fase plenaria con temi universali di perseveranza e successo, sessioni specifiche per argomento e specie con esperti del settore daranno ai partecipanti l'opportunità di esplorare in maniera approfondita i loro campi di interesse, tra cui acquacoltura, allevamento di bovini da carne e vacche da latte, agricoltura, suinicoltura, avicoltura, equitazione, salute e benessere, affari, e produzione artigianale di birra e alcolici. Ulteriori relatori e argomenti di  ONE19 saranno annunciati a breve.

Over the past few years, some European manufacturers have established themselves in the North American market through a direct-from-the-factory retail sales model. Irish livestock feeding equipment manufacturer Keenan has recently joined those ranks. The company displayed one of its MechFiber line of feed processors at the Ag in Motion farm show near Saskatoon in July.

Click here to read the full article. 

The trace mineral requirements of dairy animals is a topic that continues to receive a great deal of attention, and rightfully so. Although trace minerals comprise less than 0.01 percent of the total mass of an organism, they are essential for normal function.

Click here to read the full article. 

Récord en número de aplicaciones en el tercer año del Acelerador Pearse Lyons

[DUBLÍN] – Luego de que 251 empresas incipientes (startups) de 53 países se inscribieran para formar parte del Acelerador Pearse Lyons, la clase del 2019 fue seleccionada para trabajar con Alltech y Dogpatch Labs para acelerar su desarrollo comercial. Los candidatos de este año ya han recaudado más de 143 millones de dólares, con 135 startups que revelaron los fondos.  

Actualmente en su tercer año, el Acelerador Pearse Lyons fue una creación del Dr. Pearse Lyons, quien fundó Alltech, una empresa de nutrición animal, a principios de la década de 1980 en su garaje con solo 10 000 dólares.

“A través del Acelerador Pearse Lyons, mantenemos el legado de mi padre, su espíritu empresarial y su deseo de capacitar a la próxima generación de emprendedores para contribuir con un planeta de abundancia”, dijo el Dr. Mark Lyons, presidente y director ejecutivo de Alltech.

Los participantes, que provienen de Canadá, Irlanda, Portugal, el Reino Unido y los Estados Unidos, también tendrán la oportunidad de presentarse en el escenario principal de ONE: La Conferencia de Ideas de Alltech. En su 35.º año, la conferencia internacional anual se llevará a cabo del 19 al 21 de mayo en Lexington, Kentucky, Estados Unidos, y dará la bienvenida a más de 4000 líderes de la industria agropecuaria procedentes de más de 70 países.

“Nuestra clase 2019 se centra en todos los aspectos de la agricultura, incluyendo el bienestar animal, la calidad de la carne, la salud de los cultivos y el aumento de la productividad”, dijo Lyons. “El último grupo de startups refleja el alcance completo de las operaciones globales de Alltech, y creemos que sus tecnologías pueden ayudar a que tanto Alltech como nuestros clientes sean más sostenibles, rentables e innovadores”.

Los participantes representan una amplia variedad de innovaciones agropecuarias transformadoras.

“En SomaDetect, podemos detectar instantáneamente cada compuesto en la leche cruda con nuestro sensor en línea”, dijo Bethany Deshpande, directora ejecutiva y cofundadora de SomaDetect. “Nuestra tecnología se puede utilizar para rastrear el impacto de la nutrición premium en las vacas lecheras y ayudar a detectar problemas como la mastitis, un punto importante para los productores lecheros. Estamos muy contentos por la oportunidad de colaborar con Alltech, una de las empresas líderes en nutrición animal en el mundo”.

La empresa de secuenciación del ADN, Biome Makers de los Estados Unidos, ganadora del Premio de Innovación AgFunder, también ha sido seleccionada para participar en el acelerador.

“Estamos muy contentos de unirnos al acelerador y trabajar con Alltech, que tiene una red internacional enorme y realmente podría ayudarnos a lanzar nuestra nueva solución, la cual utiliza el microbioma del suelo como un biosensor para evaluar el efecto en tiempo real de los insumos agrícolas”. comentó Adrian Ferraro, director ejecutivo y co-fundador de Biome Makers.

“Alltech tiene un historial fantástico en guiar a las empresas jóvenes al éxito”, dijo Benjamina Bollag, cofundador de la empresa de carnes basada en células Higher Steaks del Reino Unido. “Estamos muy agradecidos por la oportunidad única de beneficiarnos de la experiencia combinada de Alltech en nutrición animal y ciencia de cultivos”.

El éxito de los ex alumnos del programa refleja la alta calidad de las startups que el Acelerador Pearse Lyons ha atraído hasta la fecha. Las empresas incipientes que han formado parte del acelerador han recaudado colectivamente 36 millones de dólares. Dos startups han realizado adquisiciones, incluida AgriWebb, que recaudó 14 millones de dólares en el 2018 en rondas de financiación de capital de riesgo serie A del Grupo Wheatsheaf, el fondo de inversión de Hugh Grosvenor, duque de Westminster. Más recientemente, Allison Kopf, fundadora de Agrilyst, fue incluida en la lista de Forbes “30 con menos de 30” en la categoría de Alimentos y Bebidas. Asimismo, la startup irlandesa MagGrow recaudó 3 millones de euros en una ronda de financiación, y la startup de Indonesia eFishery cerró una ronda de financiación de 3,5 millones de dólares. 

“El acceso a esta red global de ex alumnos y extraordinarios emprendedores de agro-tecnologías será enormemente beneficioso para esta nueva cohorte de empresas incipientes”, comentó Patrick Walsh, fundador de Dogpatch Labs.

“Lo que hace que este acelerador sea único es el compromiso del liderazgo de Alltech para activamente ser mentor de estas empresas”, dijo Robbie Walker, director del programa el Acelerador Pearse Lyons de Alltech. “Esto ahora incluye al Dr. Mark Lyons, nuestro presidente y director ejecutivo, quien está directamente involucrado en el programa y ve la colaboración a través de la innovación como una estrategia clave de crecimiento para Alltech".

El Acelerador Pearse Lyons: Clase 2019 

• SomaDetect (Canadá): Sensor en línea que mide todos los indicadores críticos de la calidad de la ganadería lechera (grasa, proteínas, recuento de células somáticas, progesterona y antibióticos) de cada vaca en cada ordeño.
• Higher Steaks (Reino Unido): Al utilizar técnicas de cultivo celular vanguardista, una pequeña muestra de las células de un animal se expandirá alimentando estas células. Cuando estas células crecen, se convierten en el producto de carne deseado. 
• SwineTech (Estados Unidos): La solución líder a nivel mundial para reducir el aplastamiento de lechones y la mortalidad pre-destete, y también sirve para controlar la salud de las cerdas. 
• Breedr (Reino Unido): La primera aplicación del mundo para la producción animal que utiliza datos compartidos para optimizar el rendimiento, la calidad y la rentabilidad. 
• Biome Makers (Estados Unidos): Mide la salud de los cultivos y la biodiversidad funcional mediante la secuenciación del ADN y la computación inteligente.
• Global Resonance (Reino Unido): Incorporación de datos en tiempo real desde el inicio hasta el final de la cadena de suministro de alimentos directamente en los sistemas comerciales. 
• FarmCloud (Portugal): Permite la integración plug-and-play de controladores de clima y alimentación de una amplia gama de fabricantes.
• Terra NutriTECH (Irlanda): Agrega cantidades precisas de suplementos alimenticios a los sistemas de agua en las granjas, reduciendo la mano de obra y mejorando los rendimientos. 
• FOLIUM (Reino Unido): Eliminación de bacterias en el alimento con el uso de CRISPR. 
• InTouch (Irlanda): Solución en línea para el manejo de la alimentación en operaciones lecheras.

Para conocer más sobre el programa, visite pearselyonsaccelerator.com.

Las ciudades de Ouanaminthe y Dondon en Haití encontraron en la producción de café la oportunidad de establecer una economía sostenible en la región. Desde 2010, el Proyecto Haití Sustentable desarrollado por la comunidad en colaboración con Alltech, ha permitido una mejor calidad de vida a los haitianos, con mayor infraestructura urbana y menor deserción escolar. 

Con los ingresos de las exportaciones del producto, ha sido posible beneficiar a 600 familias en Dondon y matricular a 800 niños en dos escuelas construidas.

La iniciativa fue ideada por el fundador de Alltech, el Dr. Pearse Lyons, que tras el terremoto que asoló al país en 2010, viajó a Haití para prestar ayuda. Durante la visita, el empresario irlandés percibió que en Puerto Príncipe ya había muchas organizaciones auxiliando. 

“Él quería hacer un proyecto a largo plazo que pudiera ayudar a las personas. Por eso, decidió actuar en comunidades distantes a Puerto Príncipe y, al llegar a Dondon, percibió el potencial que había en la región”, relata la coordinadora del proyecto en Haití, Avelyne St Hilaire. “La idea era fortalecer a las comunidades lejanas a Puerto Príncipe de manera sostenible, de modo que los niños no necesitaran mudarse para tener un futuro mejor”.

"Antes los niños no tenían oportunidad de estudiar, pues los padres no podían  dejarlos en las escuelas. Hoy, ellos logran ir a sus labores cafetaleras y saben que sus hijos estarán estudiando y recibiendo todo el apoyo", explica la coordinadora. 

Otro avance en la comunidad fue la mejora en los trayectos para las escuelas, que antes del proyecto eran de difícil acceso, lo cual contribuía a la deserción escolar.

Además de ofrecer mejoras en la calidad de vida, el proyecto también promueve la sostenibilidad en la producción de café. Históricamente, el café ha sido el principal producto de exportación de Haití, y con el apoyo de Alltech, los productores de Dondon y Ouanaminthe han logrado mayores índices en la cosecha, sin perjudicar al medio ambiente. 

"Hemos hecho lo posible para poner de pie nuevas prácticas de siembra. Pensando en la calidad de luz y sombra para los granos y buscando controlar las enfermedades de manera natural, tenemos hoy un café biológico, lo que beneficia nuestras exportaciones", comentó Cedieu Joseph, presidente de la cooperativa involucrada.

El café producido en Dondon es de calidad reconocida. Su condición geográfica, por encima de los 243 metros sobre el nivel del mar, permite que las propiedades de los granos sean más suaves, con sabor diferenciado, destacándose por ser el único producto orgánico de Haití. 

"Cuando la gente consume el Café Citadelle no sólo está consumiendo un simple café, está ayudando a las personas y cambiando su realidad", finaliza St Hilaire.

Record number of startups apply for third year of The Pearse Lyons Accelerator

[DUBLIN] – After a record-breaking 251 startups from 53 countries applied to be part of The Pearse Lyons Accelerator, the class of 2019 has been selected to work with Alltech and Dogpatch Labs to accelerate their business development. This year’s applicants have already raised over $143 million, with 135 startups disclosing funding

Now in its third year, The Pearse Lyons Accelerator was the brainchild of the late Dr. Pearse Lyons, who founded Alltech, an animal nutrition company, in the early 1980s in his garage with just $10,000.

“Through The Pearse Lyons Accelerator, we carry on my father’s legacy, his entrepreneurial spirit and his desire to empower the next generation of entrepreneurs to contribute to a planet of plenty,” said Dr. Mark Lyons, president and CEO of Alltech.

The participants, which hail from Canada, Ireland, the United Kingdom and the United States, will also have the opportunity to present on the mainstage at ONE: The Alltech Ideas Conference. Now in its 35th year, the annual international conference will be held in Lexington, Kentucky, USA, from May 19–21 and will welcome more than 4,000 agriculture industry leaders from over 70 countries.

“Our class of 2019 startups focus on all aspects of agriculture, including animal welfare, meat quality, crop health and increased productivity,” said Lyons. “The final group of startups reflect the full scope of Alltech's global operations, and we believe that their technologies can help make both Alltech and our customers more sustainable, profitable and innovative.”

The participants represent a wide variety of transformative agricultural innovations.

“At SomaDetect, we can instantly detect every compound in raw milk with our in-line sensor,” said Bethany Deshpande, CEO and co-founder of SomaDetect. “Our technology can be used to track the impact of premium nutrition on dairy cows and help detect issues like mastitis, which is a major pain point for dairy farmers. We are excited to have the opportunity to collaborate with Alltech, one of the leading animal nutrition companies in the world.”

DNA sequencing startup Biome Makers from the United States, a winner of the AgFunder Innovation Awards, has also been selected to participate in the accelerator.

“We are looking forward to joining the accelerator and working with Alltech, which has a vast international network that could really help us launch our newest solution, which uses the soil microbiome as a biosensor to evaluate the real-time effect of crop inputs,” said Adrian Ferraro, CEO and co-founder of Biome Makers.

“Alltech has a fantastic track record in guiding young companies to success,” said Benjamina Bollag, co-founder of cell-based meat startup Higher Steaks from the U.K. “We are grateful to have been given such a unique opportunity to benefit from Alltech’s combined experience in animal nutrition and crop science.”

The success of the program’s alumni reflects the high quality of the startups that The Pearse Lyons Accelerator has attracted to date. Since completing the accelerator, the startups have collectively raised $36 million. Two startups have made acquisitions, including AgriWebb, which raised $14 million in 2018 in a series A round of venture capital financing from Wheatsheaf Group, the investment fund of Hugh Grosvenor, Duke of Westminster. More recently, Allison Kopf, founder of Agrilyst, was named to the Forbes “30 Under 30” list in the Food & Drinks category. Similarly, Irish startup MagGrow raised €3 million in a round of funding, and the Indonesian startup eFishery closed a $3.5 million round of funding.

“Access to this global alumni network of extraordinary ag-tech entrepreneurs will be hugely beneficial for this new cohort of startups,” said Patrick Walsh, founder of Dogpatch Labs.

“What makes this accelerator unique is the commitment from Alltech’s leadership to actively mentor the startups,” said Robbie Walker, Alltech’s program director of The Pearse Lyons Accelerator. “This now includes Dr. Mark Lyons, our president and CEO, who is directly involved in the program and sees collaboration through innovation as a key growth strategy for Alltech.”

The Pearse Lyons Accelerator: 2019 class

• SomaDetect (Canada): In-line sensor that measures every critical indicator of dairy quality (fat, protein, somatic cell count, progesterone and antibiotics) from every cow at every milking.
• Higher Steaks (United Kingdom): Using state-of-the-art cell culture techniques, a small sample of cells from an animal will be expanded by feeding these cells. When these cells have grown, they become the desired meat product.
• SwineTech (United States): SwineTech is the world’s leading solution to reduce piglet crushing and pre-weaning mortality, and also for monitoring sow health.
• Breedr (United Kingdom): The world's first app for livestock farmers that uses shared data to optimize yield, quality and profitability.
• Biome Makers (United States): Measuring crop health and functional biodiversity by using DNA sequencing and intelligent computing.
• Global Resonance (United Kingdom): Bringing real-time data from the start to the end of the food supply chain directly into business systems.
• Terra NutriTECH (Ireland): Adding precise amounts of feed supplements into the water systems on farms, reducing labor and improving returns.
• FOLIUM (United Kingdom): Removal of feed bacteria via CRISPR.
• InTouch (Ireland): Online feed management solution for dairy farmers.

To learn more, visit pearselyonsaccelerator.com.

-Ends-

Contact: Maria Daly, Alltech PR

press@alltech.com; +353 86 466 9554

Photo: https://photos.alltech.com/pf.tlx/WFZWBMWFEwN1i

Caption: Co-founder of the ag-tech startup Breedr, Claire Lewis, speaks with Dr. Mark Lyons, president and CEO of Alltech, during the first day of The Pearse Lyons Accelerator 2019 program at Dogpatch Labs in Dublin, Ireland.

About Alltech:

Founded in 1980 by Irish entrepreneur and scientist Dr. Pearse Lyons, Alltech discovers and delivers solutions for the sustainable nutrition of plants, animals and people. With expertise in yeast fermentation, solid state fermentation and the science of nutrigenomics, Alltech is a leading producer and processor of yeast additives, organic trace minerals, feed ingredients, premix and feed.

Our guiding ACE principle seeks to develop solutions that are safe for the Animal, Consumer and the Environment. Our more than 6,000 talented team members worldwide put this purpose to work every day for our customers.

Alltech is a family-owned company, which allows us to adapt quickly to emerging customer needs and to stay focused on advanced innovation. Headquartered just outside of Lexington, Kentucky, USA, Alltech has a strong presence in all regions of the world. For further information, visit www.alltech.com/news. Join us in conversation on Facebook, Twitter and LinkedIn.

About Dogpatch Labs:

Dogpatch Labs is one of Europe’s leading tech community hubs fostering entrepreneurship for startups, facilitating technology innovation for all sizes of companies and nurturing transformative social enterprises.

Located in the historic CHQ building in the heart of the Dublin Docklands, it is home to over 80 startups and over 350 members from 30+ countries. It supports the startup community by providing a unique space to grow and hosting regular events to share knowledge, form connections and spark collaborative innovation.

Acknowledged as a world-class entrepreneurial hub catalyzing the ecosystem in Ireland, Dogpatch Labs was awarded the Global Citizenship Award in 2017 and the Diversity & Inclusion Award in 2018 by Google for Startups.

Alumni include many of Ireland’s fastest growing tech companies including Irish tech unicorn ‘Intercom’ and provides the global headquarters for CoderDojo, the volunteer-led movement of free computer programming clubs. Dogpatch actively supports social technology initiatives such as CoderDojo, ChangeX, HackAccess, PyLadies, Social Innovation Fund and others.

Links: dogpatchlabs.com/press | Twitter: @dogpatchlabs | Facebook: www.facebook.com/dogpatchlabs

[DUBLIN, Irlande] - 251 startups de 53 pays ont postulé pour faire partie du programme Pearse Lyons Accelerator 2019 : un nombre record. Les participants retenus pour cette édition 2019 travailleront avec Alltech et Dogpatch Labs pour accélérer leur développement commercial. Leurs idées ambitieuses sont supportées par l’industrie puisque plus de 143 millions de dollars ont déjà été récoltés.

Cela fait déjà trois ans que le Pearse Lyons Accelerator existe. C’est l'idée du défunt Dr. Pearse Lyons, qui a fondé Alltech, une société de nutrition animale, au début des années 1980 dans son garage avec seulement $10 000.

« Grâce au Pearse Lyons Accelerator, nous portons l'héritage de mon père, son esprit d'entreprenariat et son désir d'aider la prochaine génération à contribuer à une planète d'abondance », a déclaré le Dr. Mark Lyons, Président Et P-DG d'Alltech.

Les start-ups retenues, originaires du Canada, de l'Irlande, du Portugal, de l'Espagne, du Royaume-Uni et des États-Unis, auront également l'occasion de présenter leur entreprise sur la scène du ONE: The Alltech Ideas Conference. Pour sa 35ème édition, la conférence sera tiendra à Lexington, dans le Kentucky, aux États-Unis, du 19 au 21 mai 2019 et accueillera plus de 4 000 leaders de l'industrie agricole venus de plus de 70 pays.

« Le cru 2019 de startups se focalise sur tous les aspects de l'agriculture, y compris le bien-être animal, la qualité de la viande, la santé des cultures ou encore les rendements », a déclaré Mark Lyons. « Ce groupe de startups reflète la pleine portée des opérations globales d'Alltech, et nous croyons que leurs technologies peuvent aider à rendre les élevages plus durables, rentables et innovants.”

Les participants représentent une grande variété d'innovations agricoles inédites.

« Chez SomaDetect, nous pouvons détecter instantanément chaque composé dans le lait cru avec notre capteur monté en ligne sur les équipements de traite », a déclaré Bethany Deshpande, P-DG Et Co-fondatrice de SomaDetect. « Notre technologie peut être utilisée pour suivre l'impact de la nutrition haut de gamme sur les vaches laitières et aider à détecter des problèmes comme les mammites, qui impactent lourdement les producteurs laitiers. Nous sommes ravis d'avoir l'occasion de collaborer avec Alltech, l'une des principales sociétés de nutrition animale au monde. »

La startup de séquençage d'ADN Biome Makers, basée aux États-Unis, lauréate de l'AgFunder Innovation Award, a également été sélectionnée pour participer à l'accélérateur. « Nous sommes impatients de rejoindre le programme PLA et de travailler avec Alltech, qui dispose d'un vaste réseau international qui pourrait vraiment nous aider à lancer notre nouvelle solution. Nous utilisons le microbiome du sol comme un biocapteur pour évaluer l'effet en temps réel des intrants de culture », a déclaré Adrian Ferraro, P-DG Et Co-fondateur de Biome Makers.

« Alltech a une historique fantastique pour ce qui est de guider les jeunes entreprises à la réussite », a déclaré Benjamina Bollag, co-fondateur de Higher Steaks spécialisé dans la culture de viande in-vitro et basé au Royaume-Uni « Nous sommes reconnaissants d'avoir reçu une telle occasion unique de profiter de l'ensemble de l'expérience Alltech en nutrition animale et en science des cultures. »

Le succès des anciens du programme reflète la haute qualité des startups que le Pearse Lyons Accelerator a su attirer à ce jour. Depuis la fin de leur édition du programme, les startups ont recueilli collectivement 36 millions de dollars. Deux startups ont fait des acquisitions, dont AgriWebb, qui a recueilli $14 millions en 2018, dans une série de financement avec le groupe Wheatsheaf, et le fonds d'investissement de Hugh Grosvenor, duc de Westminster. Plus récemment, Allison Kopf, fondatrice d'Agrilyst, a été nommée à la liste Forbes « 30 entrepreneurs de moins de 30 ans » dans la catégorie Alimentation et boissons. De même, la startup irlandaise MagGrow a soulevé €3 millions dans une ronde de financement, et la startup indonésienne eFishery a clôturé une série de $3,5 millions de financement.

« L'accès à ce réseau mondial d'entrepreneurs, spécialisés dans les technologies de l’agriculture sera extrêmement bénéfique pour cette nouvelle cuvée de startups », a déclaré Patrick Walsh, fondateur de Dogpatch Labs.

« Ce qui rend cet accélérateur unique, c'est l'engagement des leaders d'Alltech à encadrer activement les startups », a déclaré Robbie Walker, directeur du programme d'Alltech. « Cela inclut maintenant le Dr Mark Lyons, notre Président et directeur général, qui est directement impliqué dans le programme et voit la collaboration par l'innovation comme une stratégie de croissance clé pour Alltech. »

Le Pearse Lyons Accelerator : l’édition 2019

• SomaDetect (Canada) : Capteur en ligne qui mesure chaque indicateur critique de la qualité laitière (lipides, protéines, cellules somatiques, progestérone et antibiotiques) de chaque vache à chaque traite.
• Higher Steaks (Royaume-Uni) : En utilisant des techniques de culture cellulaire de pointe, un petit échantillon de cellules d'un animal peut croître in-vivo. Lorsque ces cellules ont grandi, elles deviennent le produit de viande désiré.
• SwineTech (États-Unis) : SwineTech est la solution leader au monde pour réduire l’écrasement des porcelets par les mères et la mortalité pré-sevrage, mais aussi pour surveiller la santé des truies.
• Breedr (Royaume-Uni) : La première application au monde pour les éleveurs qui utilisent des données partagées pour optimiser le rendement, la qualité et la rentabilité.
• Biome Makers (États-Unis) : Mesurer la santé des cultures et la biodiversité fonctionnelle en utilisant le séquençage de l'ADN et l’intelligence artificielle.
• Global Resonance (Royaume-Uni) : Apporter des données en temps réel du début à la fin de la chaîne d'approvisionnement alimentaire, directement au niveau des systèmes d'entreprise.
• FarmCloud (Portugal) : Permet l'intégration plug-and-Play des capteurs météo et d'alimentation pour un large éventail de fabricants.
• Terra NutriTECH (Irlande) : Dosage précis de compléments alimentaires dans les systèmes d'eau dans les fermes, réduisant la main-d'œuvre et améliorant les rendements.
• FOLIUM (Royaume-Uni) : Élimination des bactéries présentes dans les aliments d’élevage via CRISPR.
• InTouch (Irlande) : Solution de gestion des rations en ligne pour les producteurs laitiers.

Pour en savoir plus, rendez-vous sur pearselyonsaccelerator.com.

Although feed is the single biggest cost for UK dairy businesses, accounting for 60 percent of variable costs, industry research suggests it is one of the most under-utilised inputs, with as much as 45 percent of its potential lost from field to cow.  

Ian Leach, Alltech retail programmes manager, explains that this equates to a feed waste value of almost £1 for every £3 spent.  

“The preliminary results from a pilot study1 carried out by Alltech, in conjunction with leading industry experts, reinforces the scale of the issue,” he explains.  

“The study assesses a variety of different critical control points where feed wastage occurs, including in the field, during storage, at feeding out and inside the cow.” 

Explaining the preliminary results, taken from 34 farms, Mr Leach says the study has confirmed that it is likely there is scope for huge improvement across the spectrum of UK dairy farms.  

Storage 

“Results show that the average loss of dry matter (DM) in silage clamps is in the region of 25 percent,” says Mr Leach.  

“On most farms, it was identified that the greatest losses were in the most nutritive part of the silage resulting in the undigestible proportion increasing. Not only does this cause a reduction in dry matter intake (DMI), it has potential to lead to health issues, such as SARA, as the balance of the ration can be disrupted.” 

Feed-out  

Ian goes on to explain that at feeding out, physical ration presentation and feed barrier space was an issue. 

“There was evidence of sorting and ‘balled’ silage on 19 of the 34 test farms, in addition 23 of the 34 farms failed to meet the target feed barrier space of 65cm per cow, all of which can impact on feed conversion efficiency (FCE),” he explains.  

“FCE across the pilot study farms averaged 1.2 and we know incremental improvements in this key parameter can significantly reduce feed wastage.” 

Cow 

Cow health is a key area where efficiencies can have a big impact on feed wastage and the bottom line.  

“For example, for a unit with average incidence rates of mastitis, lameness, metritis and milk fever, the total financial impact of losses equates to around £39,995 (3ppl),” says Mr Leach.  

“Calving intervals of 419 days and service conceptions of 2.6 could also be costing units around £47,161 (3ppl).”  

In addition to health and fertility issues, drops in rumen efficiency can also add up. “For example, during the study we’ve seen a consistent presence of fibre in the dung and some grains demonstrating inefficient rumen function.   

“Research shows that a feed conversion efficiency (FCE) of 1.2 could comfortably move to 1.3 with specific nutritional strategies which could have a minimum impact value of 1.4ppl2,” he explains.  

“While the Alltech pilot study cannot attribute specific losses against environmental parameters, Cow Signals indicates that insufficient feed barrier space, water trough space, or lighting, will have a direct influence on lying time and reduce FCE.” 

The Alltech team will continue to assess the extent of losses in other areas of the system on more farms, while also working to develop tools to show farmers the true extent of the financial losses. 

“We ultimately want to help farmers take greater control of feed waste to cut costs and improve margins.” 

1. Pilot study farm facts  

* average figure for all farms assessed 

2. Average herd size 181 head, over 200 housing period, milk price 30ppl 

Contact 

Ian Leach 

Email: ileach@alltech.com 

Tel: 07973 616 400

A PROCROP SHIELD EU a globális növényvédelmi termékcsoportunk tagja, mely egy tápanyagok által támogatott, öröklött növényi védekezési mechanizmust aktivál. Egyaránt szolgál tápanyagként, növényi aktivátorként és mikrobiális inokulumként is. Egy egyedülálló, természetes megoldást biztosít, mely fertőzésekkel és kórokozókkal szembeni ellenállóságban érvényesül, ezzel javítva és megőrizve növénye egészségét, mely nutrigenomikai kutatóközpontunk fő fejlesztési célja.

A PROCROP SHIELD EU hatékonysága a kationok egyedülálló kombinációjából adódik. Ez a technológia biztosítja a növények védelméhez szükséges tápanyagokat, egy azonnali hatással és gyors növényi reakcióval a növényt ért külső stresszhatások ellen. Levéltrágyaként jól alkalmazható, és jól illeszkedik a legtöbb hagyományos gombákat és baktériumokat célzó növényvédelmi programba.

• Kationok egyedülálló kombinációja
• Nincs szintetikus szermaradék
• Integrálható a növényvédelmi programba

A PROCROP ISR a globális növényvédelmi termékcsoportunk tagja, mely egy tápanyagok által támogatott, öröklött növényi védekezési mechanizmust aktivál. Egyaránt szolgál tápanyagként, növényi aktivátorként és mikrobiális inokulumként is. Egy egyedülálló, természetes megoldást biztosít, mely fertőzésekkel és kórokozókkal szembeni ellenállóságban érvényesül, ezzel javítva és megőrizve növénye egészségét, mely nutrigenomikai kutatóközpontunk fő fejlesztési célja.

A PROCROP ISR-t úgy tervezték, hogy megerősítse a növényt, ezzel biztosítva az optimális növényi anyagcsere-folyamatokhoz szükséges tápanyagokat. A jól táplált növények hatékonyabb védelmi rendszerrel rendelkeznek, amely könnyen reagálhat a növénytermesztést befolyásoló, változó környezeti hatásokra és stresszhelyzetekre.

• A növény megerősítésére tervezett aktív összetevők keveréke
• Nincs szintetikus szermaradék
• Integrálható a növényvédelmi programba
• Az egészségesebb növények jobban ellenállnak a stressznek